ฝากเงินธนาคารไหนดี เงินฝากตั้งแต่ 1 บาท - 100,000 บาทแรก!
ก่อนหน้านี้ผมได้มีทำคอนเทนต์ รวม 8 บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง ไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงก็คือ มีตั้ง 8 ธนาคาร (ในความเป็นจริงมีมากกว่านี้อีก) แล้วแบบนี้เราจะเลือกได้อย่างไรว่าจะฝากเงินกับที่ไหนดี? วันนี้ผมเลยลองมาแบ่งให้ชัดขึ้นครับ สำหรับคนที่เริ่มเก็บเงินแล้วมีเงินฝากที่ยังไม่เกิน 1 แสนบาท หรือคนที่ต้องการแบ่งเงินฝากในบัญชีบางส่วนออกมาเปลี่ยนที่ฝากเพื่อให้ได้ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นครับ
เงินฝากตั้งแต่ 1 - 9,999 บาท ดอกเบี้ยเงินฝากสูง 1.5% ต่อปี
สำหรับคนที่เริ่มเก็บเงินและมีเงินฝากอยู่ในช่วงที่ยังไม่ถึง 1 หมื่นบาท ถ้าเป็นบัญชีทั่ว ๆ ไปก็จะมีดอกเบี้ยอยู่ประมาณ 0.25% ต่อปี แต่ถ้าเป็นเงินฝากดิจิตอล (บัญชีดิจิตอล) ก็จะเพิ่มโอกาสให้เราได้ดอกเบี้ยสูงถึง 1.5% ต่อปีตั้งแต่บาทแรกเลยครับ ผมสมรุปมาให้มีทั้งหมด 5 ธนาคารกันเลย
- บัญชีออมทรัพย์ อีซี่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
- บัญชีเงินฝาก ออมทรัพย์ มีแต่ได้ ออนไลน์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (Krungsri)
- บัญชีเงินฝาก Next Saving ธนาคารกรุงไทย (KTB)
- บัญชีเงินฝาก K-eSavings ธนาคารกสิกรไทย (KBank)
เงินฝากตั้งแต่ 10,000 - 50,000 บาท ดอกเบี้ยเงินฝากสูง 2% ต่อปี
สำหรับในเดือนสิงหาคม 2564 คนที่มีเงินฝากตั้งแต่ 10,000 - 50,000 บาท จะเป็นกลุ่มที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดเลยครับเป็นของธนาคาร CIMB ซึ่งให้สูงถึง 2% ต่อปี แต่ต้องบอกก่อนว่า 2% นี้จะเป็นการคิดดอกเบี้ยแบบ Split Rate หรือภาษาไทยก็คือการจ่ายดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดครับ หลายคนอาจจะสงสัยใช่ไหมครับว่าการคำนวณดอกเบี้ยแบบนี้ต้องคิดอย่างไร เดียวผมอธิบายเพิ่มเติมให้ตามนี้เลยครับ
การคิดดอกเบี้ยบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ดอกเบี้ยสูง
การคิดดอกเบี้ยบัญชีออมทรัพย์เท่าที่เราจะสามารถเห็นกันได้บ่อย ๆ แต่หลายคนอาจจะไม่ได้สังเกตุ จะมี 2 แบบ คือ
1. การคำนวณดอกเบี้ยเท่ากัน
อันนี้จะเป็นแบบพื้นฐานและเห็นได้ทั่วไปเลยครับ วิธีการในการคิดคำนวณดอกเบี้ยง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน แบ่งออกมาอีก 2 แบบตามเงื่อนไข ดังนี้ครับ
1.1 คำนวนดอกเบี้ยเท่ากันในอัตราดอกเบี้ยเดียว
สมมุติว่าธนาคารบอกว่าจะจายดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี ของเงินฝาก ก็หมายความว่าจะฝากเงินเท่าไรธนาคารก็ให้ดอกเบี้ยดอกเบี้ย 0.25% ต่อปีครับ
ตัวอย่าง
- ฝากเงิน 2,000 บาท ก็ได้ดอกเบี้ย 0.25%
- ฝากเงิน 10,000 บาท ก็ได้ดอกเบี้ย 0.25%
- ฝากเงิน 50,000 บาท ก็ได้ดอกเบี้ย 0.25%
- ฝากเงิน 100,000 บาท ก็ได้ดอกเบี้ย 0.25%
1.2 คำนวนดอกเบี้ยเท่ากันในอัตราดอกเบี้ยหลายแบบ
ในรูปแบบนี้ดอกเบี้ยจะคำนวณคล้าย ๆ กับแบบแรก แต่จะต่างตรงที่จะดูจากวงเงินคงเหลือในบัญชีด้วยครับ
ตัวอย่าง
- เงินฝากในบัญชีน้อยกว่า 10,000 บาท ได้ดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี
- เงินฝากในบัญชีตั้งแต่ 10,000 บาท ขึ้นไป ได้รับดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี
ถ้าคุณมีเงินฝากในบัญชีเหลือน้อยกว่า 10,000 บาท จะได้ดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี แต่ถ้าวันนี้คุณฝากเงินเพิ่มเข้าไปทำให้เงินในบัญชีคงเหลือมากกว่า 10,000 บาท คุณก็จะได้รับดอกเบี้ย 1.5% ต่อปีตั้งแต่บาทแรกเลยครับ
2. การคำนวณดอกเบี้ยแบบ ขั้นบันได (Split Rate)
ในรูปแบบนี้จะมีความซับซ้อนในการคำนวณดอกเบี้ยสักหน่อย โดยอัตราดอกเบี้ยอัตราดอกเบี้ยตามยอดเงินฝากครับ ผมจะยกตัวอย่างของบัญชีธนาคาร Chill D ของธนาคาร CIMB นะครับ โดยธนาคารมีการเสนออัตราดอกเบี้ยตามนี้
ดังนั้นถ้าคุณฝาก 50,000 บาท 1 ปี คุณก็จะได้รับดอกเบี้ยอยู่ที่ 850 บาทครับ ซึ่งดอกเบี้ยที่แท้จริงก็เท่ากับ 1.70% ครับ แต่ถึงจะคิดแบบดอกเบี้ยเงินฝากแบบขั้นบันได บัญชี Chill D ธนาคาร CIMB ก็ยังคงให้ดอกเบี้ยสูงที่สุดในกลุ่มเงินฝากช่วง 50,000 บาทครับ
ซึ่งจริงๆ ยังฝากได้ถึง 60,000 เลยนะครับ เพราะว่ายังคงได้ดอกเบี้ยที่แท้จริงเฉลี่ยอยู่ที่ 1.58% ต่อปี ส่วนธนาคารอื่นจะให้อยู่ที่ 1.5% เท่านั้นครับ
เงินฝากตั้งแต่ 50,000 - 100,000 บาท ดอกเบี้ยเงินฝากสูง 1.5% ต่อปี
สำหรับผู้ที่มีเงินฝากในวงเงินตั้งแต่ 50,000 ถึงไม่เกิน 100,000 บาท ก็จะมีธนาคารให้เลือกเยอะที่สุดเลยครับ ส่วนดอกเบี้ยสูงสุดจะอยู่ที่ 1.6% ต่อปี ซึ่งผมก็เลือกมาประมาณ 5 ธนาคาร
- บัญชี Savvy ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) เงินฝากในบัญชีตั้งแต่ 10,000 ถึง 1,000,000 บาท ได้รับดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.5% ต่อปี
- บัญชี ออมทรัพย์ดิจิทัล Pro-Fit ธนาคารแลนด์แอนด์ เฮ้าส์ (LH Bank) เงินฝากในบัญชีตั้งแต่บาทแรก จนถึง 5,000,000 บาท ได้รับดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี
- บัญชีออมทรัพย์ อีซี่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เงินฝากตั้งแต่บาทแรก จนถึง 2 ล้านบาท ได้รับดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี
- บัญชีเงินฝาก Next Saving ธนาคารกรุงไทย (KTB) เงินฝากตั้งแต่บาทแรกจนถึง 1 ล้านบาท ได้รับดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี
- บัญชีเงินฝาก ออมทรัพย์ มีแต่ได้ ออนไลน์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (Krungsri) เงินฝากตั้งแต่ 1 บาทแรกจนถึง 100,000 บาท ได้รับดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี
- บัญชีเงินฝาก K-eSavings ธนาคารกสิกรไทย (KBank) เงินฝากตั้งแต่ 1 บาทแรกจนถึง 100,000 บาท ได้รับดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี
นี่ก็เป็นทั้งหมดที่ผมหาข้อมูลและสรุปมาให้ในบัญชีเงินฝาก 2566 นะครับใครชอบธนาคารไหน สนใจธนาคารไหนก็ลองเข้าไปเลือกใช้บริการกันได้เลย แต่อย่าลืมว่าเราฝากเงินได้ดอกเบี้ยแล้ว อีกรูปแบบหนึ่งควรทำคือการลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับคนที่มีหนี้นะครับ หากเราประหยัดดอกเบี้ยได้เราก็จะสามารถนำเงินส่วนต่างตรงนั้นไปทำประโยชน์อย่างอื่นได้
อย่างดอกเบี้ยบ้านแม้ว่าจะไม่สูงเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยอื่น อย่างเรากู้มา 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยประมาณ 2 - 3% แต่พอเวลาผ่านไปเราดอกเบี้ยบ้านจะมีการปรับขึ้น ปกติจะปรับขึ้นในปีที่ 3 ปรับขึ้นมาเป็น 4 - 8% แต่ละเดือนเราจะต้องจ่ายเงินเพิ่มถึงเกือบ 5,000 บาทเลยครับ ดังนั้นเราควรทำการ รีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อลดดอกเบี้ยครับให้กลับมาเป็นประมาณ 2-3% เหมือนเดิม และเอาเงินที่จะจ่ายดอกเบี้ยไปเก็บรับดอกเบี้ยดีกว่า ส่วนใครสนใจดูข้อมูลเรื่องการ รีไฟแนนซ์รถ รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ต่อก็สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ รีไฟแนนซ์