ฝากเงินให้คุ้ม รวม 8 บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง 2567
ช่วงหลายปีที่ผ่านมาแม้จะมีกระแสเรื่องการลดความคุ้มครองเงินฝากลงเหลือ 1 ล้านบาท แต่อย่างไรแล้วการฝากเงินไว้กับธนาคารก็ยังคงเป็นหนึ่งทางเลือกที่ดูจะปลอดภัย และน่าสนใจอยู่เมื่อเทียบกับการเก็บเงินไว้ในรูปแบบอื่น ๆ วันนี้ Refinn เลยจะมาอัพเดตบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง ประจำปี 2567 กันครับ
แต่ก่อนไปดูว่ามีบัญชีเงินฝากไหนดอกเบี้ยสูงบ้างเราพูดถึงประเภทของบัญชีเงินฝากกันก่อน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วถ้านึกถึงดอกเบี้ยสูงเราก็จะนึกถึงพวกบัญชีเงินฝากประจำระยะยาว บัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษี ที่ต้องออมเงินอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว 24 - 48 เดือน ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีอยู่ แต่ที่เพิ่มเข้ามาในตอนนี้ และเรียกได้ว่ากำลังมาแรงเลยคือบัญชีเงินฝากประเภทดิจิทัล หรือที่เราส่วนใหญ่ออกเสียงกันว่าเงินฝากดิจิตอลนั้นแหละครับ พูดง่าย ๆ ก็คือ เป็นบัญชีไม่มีเล่มบัญชี เปิดผ่านออนไลน์ ผ่าน App ของแต่ละธนาคารได้เลยง่าย ๆ ไม่ต้องไปสาขาธนาคาร เงินที่ฝากส่วนใหญ่ก็ไม่ได้บังคับว่าจะต้องเป็นการฝากประจำ ทำให้ฝาก - ถอนเงินเมื่อไรก็ได้ ไม่ต้องคงเงินไว้แต่ยังสามารถได้รับดอกเบี้ยสูงได้
โดยที่จะมีแนะนำวันนี้ก็มีจาก 8 ธนาคารด้วยกันซึ่งที่ผ่านมา Refinn ผู้ให้บริการ รีไฟแนนซ์ออนไลน์ มีการอัพเดตให้ทุกเดือนอยู่แล้ว และเดือนนี้ก็มีความน่าตื่นตาตื่นใจเพราะว่ามีธนาคารใหม่เข้ามาชิงลำดับอันดับหนึ่งไปแล้ว งั้นเราไปดูกันเลยดีกว่าว่า ธนาคารไหนที่ให้ดอกเบี้ย ผลตอบแทนสูง สำหรับ ปี 2567 กันเลยครับ
บัญชีเงินฝาก มีอะไรบ้าง
เรามาดูกันเลยว่าบัญชีเงินฝาก มีกี่ประเภท และแต่ละประเภทเป็นยังไง มีข้อดี ข้อเสียต่างกันยังไงบ้าง เพื่อที่ทุกคนจะได้เลือกเปิดบัญชีเงินฝาก ที่เหมาะกับความต้องการของตัวเอง
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ บัญชีออมทรัพย์ จะเป็นบัญชีที่เหมาะสำหรับคนที่หมุนเงินบ่อยๆ เพราะสามารถฝากและถอนได้แบบไม่จำกัด ซึ่งเป็นข้อดีของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เพราะจะฝากจะถอนเมื่อไหร่ก็ได้ และที่สำคัญมีดอกเบี้ยให้ผู้ฝากด้วย แต่ข้อเสียของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ก็คือ ดอกเบี้ยจะได้ในอัตราที่ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับบัญชีเงินฝากแบบประจำ โดยจะให้แก้ผู้มีบัญชี ปีละ 2 ครั้ง
บัญชีเงินฝากประจำ
บัญชีเงินฝากประจำจะเป็นการฝากเงินเข้าไปในบัญชีในจำนวนเท่าเดิมทุกๆครั้งตามที่ทำสัญญาไว้กับทางธนาคาร หรือ สถาบันทางการเงิน โดยส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
ฝากประจำครั้งเดียว จะเป็นการนำเงินก้อนฝากไว้กับธนาคารหรือสถาบันทางการเงิน โดยที่จะไม่สามารถถอนเงินหรือดอกเบี้ยออกมาก่อนกำหนดได้ ยกตัวอย่าง สมมุติ เรานำเงิน 1 ก้อนไปทำฝากประจำครั้งเดียว โดยทำสัญญาเป็นระยะเวลา 6 เดือน เราก็จะไม่สามารถทำอะไรกับเงินก้อนนั้นได้เลย แม้แต่จะถอนออกมาจนกว่าจะครบ 6 เดือน ถึงจะสามารถถอนออกมาได้
- ซึ่งบัญชีเงินฝากประจำครั้งเดียวมีข้อดีตรงที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะได้มากกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และที่สำคัญเป็นบัญชีเงินฝากที่มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุดในบรรดาบัญชีเงินฝากทั้ง 3 ประเภท
- ส่วนข้อเสียก็คือจะไม่สามารถถอนเงินออกมาใช้ได้ถ้าหากยังไม่ถึงกำหนด ซึ่งถ้าหากประสบปัญหาและต้องการใช้เงินขึ้นมาก็จะไม่สามารถถอนเงินออกมาได้
สำหรับ ฝากประจำทุกเดือน จะเป็นการฝากเงินเข้าไปในบัญชีโดยจำนวนเงินเท่าเดิมในทุกๆเดือน ยกตัวอย่าง สมมุติ เรา นำเงิน 5,000 บาท ไปฝากประจำทุกเดือนโดยทำสัญญาฝากประจำทุก 6 เดือน ดังนั้น เราจะต้องฝากเงินทุกเดือน เดือนละ 5,000 บาท จนกว่าจะครบ 6 เดือนจึงจะสามารถถอนเงินได้
- มีข้อดีตรงที่ เมื่อต้องฝากเงินทุกเดือน ก็จะทำให้เรามีวินัยในการเงินและที่สำคัญ จะทำให้เราออมเงินได้เยอะเพราะต้องบังคับให้ฝากทุกๆเดือนจนครบกำหนด
- แต่ข้อเสียของการฝากประจำทุกเดือนก็คือ ถ้าเดือนไหนที่เราเงินไม่พอฝาก ก็จะทำให้ประสบปัญหาทางการเงินได้
บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน
บัญชีประเภทนี้ถ้าให้อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆก็คือเวลาดูหนังเรามักจะเจอฉากที่มีคนเซ็นต์เช็ก แล้วผู้รับก็เอาเช็กไปเบิกกับธนาคาร ตรงนี้แหละที่เรียกว่าบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน โดยจะเปิดไว้เพื่อความสะดวกต่อการทำธุรกิจสำหรับลูกค้าที่มีประวัติการเงิน หรือ เครดิตดี
- ซึ่งข้อเสียของบัญชีเงินฝากกระแสรายวันก็คือจะไม่มีมีดอกเบี้ยเงินฝาก
- แต่จะมีข้อดีตรงที่สามารถเบิกวงเงินเกินบัญชีได้
โดยดอกเบี้ยจะถูกคิดเป็นรายวันนับตั้งแต่มีการเบิกเงินเกินบัญชี ยกตัวอย่าง สมมุติ เราเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน วันนึงเราเซ็นต์เช็กให้ลูกค้า 100,000 บาท แต่วงเงินในบัญชีเรามีแค่ 80,000 บาท เมื่อลูกค้านำเช็กมาเบิกเงิน ก็เท่ากับว่ามีเงินเบิกเกินบัญชีไป 20,000 บาทซึ่งจะถูกคิดอัตราดอกเบี้ยรายวันทันทีนับจากวันเบิก
8 บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง 2567
มาดู 8 บัญชีธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยบัญชีออมทรัพย์สูงประจำเดือนธันวาคม 2567 เดือนสุดท้ายของปีกันครับว่าจะมีธนาคารอะไรบ้างที่น่าสนใจ
1.ธนาคาร CIMB
ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย (CIMB Thai) กับบัญชีเงินฝาก Chill D ที่เครมเลยว่าให้ดอกเบี้ยสูงถึง 2.88% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงที่สุดที่ผมนำมาเรียงลำดับในเดือนธันวาคม 2567 นี้ครับ แต่ต้องบอกก่อนว่า 2.88% นี้จะเป็นการให้ดอกเบี้ยแบบขั้นบันได (Split Rate) ความหมายก็ คือ การจ่ายดอกเบี้ยจะแบ่งออกเป็นก้อน ๆ ตามสเต็บดังนี้ครับ
เงินฝากที่ไม่เกิน 10,000 บาท เงินส่วนนี้จะได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.50% ต่อปี
ส่วนที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท จะได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.80% ต่อปี
ส่วนที่เกิน 50,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท จะได้รับดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.88% ต่อปี
ส่วนที่เกินจาก 100,000 บาท จะได้รับดอกเบี้ย 0.20% ต่อปี
ทีนี้หลายคนอาจจะยังสงสัยว่าแล้วดอกเบี้ยเป็นสเต็บอย่างไร เดียวไปดูจากตัวอย่างนี้ครับ สมมุติว่าผมมีเงินฝากไว้กับบัญชี CIMB Chill D จำนวน 60,000 บาท เป็นระยะเวลา 30 วัน การคิดดอกเบี้ยก็จะต้องคิดแยกออเป็น 3 ก้อนดังนี้ครับ
เงินก้อนที่ 1 ไม่เกิน 10,000 บาท = (10,000 x 0.50% x 30) ÷ 365
ดอกเบี้ยที่ได้รับ = 4.10 บาท
เงินก้อนที่ 2 ส่วนที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท = (40,000 x 1.80% x 30) ÷ 365
ดอกเบี้ยที่ได้รับ = 59.18 บาท
เงินก้อนที่ 3 ส่วนที่เกิน 50,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท = (10,000 x 2.88% x 30) ÷ 365
ดอกเบี้ยที่ได้รับ = 23.67 บาท
หลังจากนั้นก็เอาดอกเบี้ยที่ได้รับจาก 3 ก้อนมารวมกันก็จะเป็นดอกเบี้ยที่ผมได้ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา = 86.95 บาท ใครที่สนใจอยากสมัครผ่าน Refinn สามารถสมัครผ่านได้ทาง บัญชีเงินฝาก Chill D เลยครับ
2.ธนาคาร KKP
ธนาคารที่สองที่ให้ดอกเบี้ยสูงคือธนาคารเกียรตินาคินภัทร บัญชี Savvy ที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 1.60% ต่อปี ครับโดยมีรายละเอียดการจ่ายดอกเบี้ย ดังนี้
เงินฝากในบัญชีไม่เกิน 10,000 บาท ได้รับดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.5% ต่อปี
เงินฝากในบัญชีไม่เกิน 1,000,000 บาท ได้รับดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.5% ต่อปี
เงินฝากในบัญชีไม่เกิน 5,000,000 บาท ได้รับดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.6% ต่อปี
ส่วนเงินที่เกิน 5 ล้านบาท จะได้รับดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี
เห็นของบัญชี Savvy มีการไล่สเต็บแบบ CIMB แต่ต้องบอกว่าคล้าย ๆ เท่านั้นนครับจะไม่เหมือนซะทีเดียว ไม่เหมือนตรงไหนเดียวผมยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
สมมุติว่าผมมีเงินฝาก 9,999 บาท อันนี้ผมจะเข้าเงื่อนไขแรกคือ มีเงินในบัญชีไม่เกิน 10,000 บาท ผมก็จะได้รับดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี
แต่ถ้าผมฝากเงินเพิ่มเข้าไป 2 บาท เท่ากับเงินในบัญชีของผมมี 10,001 บาท จะเข้าเงื่อนไขที่ 2 มีเงินในบัญชีที่เกิน 10,000 แต่ไม่เกิน 1,000,000 บาท ผมจะได้ดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี ตั้งแต่บาทแรกเลยครับ
แต่ถ้าผมมีเงินฝาก 6,000,000 บาท อันนี้จะเป็นสเต็บแล้วครับ โดย 2 ล้านแรกได้รับดอกเบี้ย 1.6% ส่วนที่เกิน 6 ล้านจะได้รับดอกเบี้ย 0.5% ต่อปีครับ
3.ธนาคาร LH Bank
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารที่ 3 ที่จะแนะนำก็คือธนาคารสุดหรูอย่าง LH Bank หรือที่รู้จักกันในชื่อ แลนด์ แอนด์ เฮาส์ กับบัญชีออมทรัพย์ดิจิทัล B-You Wealth โดยมีรายละเอียดการจ่ายดอกเบี้ยดังนี้
เงินฝากในบัญชีส่วนที่ไม่เกิน 100,000 บาท จะได้รับดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.25% ต่อปี
เงินฝากส่วนที่เกิน 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 900,000 บาท จะได้รับดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.75% ต่อปี
เงินฝากส่วนที่เกิน 900,000 บาท แต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท จะได้รับดอกเบี้ยอยู่ที่ 5.55% ต่อปี
เงินฝากส่วนที่เกิน 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 3 ล้านบาท จะได้รับดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.50% ต่อปี
เงินฝากส่วนที่เกิน 3 ล้านบาท ถึง 100 ล้านบาท จะได้รับดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.25% ต่อปี
ส่วนเงื่อนไขต่าง ๆ ในการคำนวณจะเหมือนธนาคาร kkp เลยครับ
4.ธนาคาร SCB
ธนาคารที่มีการให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศอย่าง ไทยพาณิชย์เองก็เรียกว่า ยกทัพเข้ามาสู้เหมือนกันกับบัญชีออมทรัพย์ อีซี่ ที่ให้ดอกเบี้ย 1.50% ตั้งแต่บาทแรก ซึ่งผมเองก็ได้ลองไปเปิดใช้บริการมาแล้วเรียกว่าสำหรับคนที่มีบัญชีธนาคารและใช้ Application SCB EASY อยู่แล้วสามารถเปิดบัญชีรับดอกเบี้ยสูงได้ภายใน 3 นาทีเลยครับ ทีนี้เรามาดูรายละเอียดดอกเบี้ยกันบ้าง
สำหรับเงินฝากที่ไม่เกิน 2 ล้านบาท จะได้รับดอกเบี้ย 1.50% ต่อปี
ส่วนเงินฝากที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท จะได้รับดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี
ส่วนเงินฝากที่เกิน 3 ล้านบาท จะได้รับดอกเบี้ย 0.65% ต่อปี
ส่วนเงื่อนไขในการคิดอัตราดอกเบี้ยจะเหมือนกับตัวอย่างที่คำนวณของธนาคาร KKP เลยครับ
5.ธนาคาร Krungthai
สำหรับธนาคารกรุงไทย (Krungthai) ที่ข้าราชการไทยส่วนใหญ่จะมีบัญชีนี้กันก็ต้องบอกว่าให้ดอกเบี้ยไม่น้อยหน้าจากธนาคารที่ได้เล่ามาก่อนหน้านี้เลยครับ โดยธนาคารกรุงไทยมาพร้อมกับบัญชีเงินฝาก Next Saving ที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 1.50% เช่นกัน
สำหรับเงินฝากที่ไม่เกิน 2 ล้านบาท จะได้รับดอกเบี้ย 1.50% ต่อปี
ส่วนเงินฝากที่เกิน 2 ล้านบาท จะได้รับดอกเบี้ย 0.65% ต่อปี
เงื่อนไขในการคิดอัตราดอกเบี้ยจะเหมือนกับตัวอย่างที่คำนวณของธนาคาร KKP เลยครับ
6.ธนาคาร Krungsri
มาถึงกับธนาคารกรุงศรีกันบ้างเรียกว่าเป็นธนาคารใหย่กันเลยทีเดียวนะครับสำหรับธนาคารกรุงศรีกับบัญชีเงินฝาก ออมทรัพย์ มีแต่ได้ ออนไลน์ โดยเฉพาะคนที่เปิดบัญชีผ่านออนไลน์จะมีเงื่อนไขดอกเบี้ยดังนี้ครับ
เงินฝากในบัญชีน้อยกว่าหรือเท่ากับ 2 ล้านบาท ได้รับดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.00% ต่อปี
เงินฝากในบัญชีมากกว่า 2 ล้านบาท ไม่เกิน 50 ล้านบาท ได้รับดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.65% ต่อปี
และยอดเงินฝากในบัญชีมากกว่า 50 ล้านบาท ไม่เกิน 500 ล้านบาท ดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี
ในด้านเงื่อนไขในการคิดดอกเบี้ยจะเหมือนกับตัวอย่างที่คำนวณของธนาคาร KKP เลยครับ
7.ธนาคาร KBank
ธนาคารต่อไปผมยกให้เป็นของธนาคารกสิกรไทย (KBank) กับบัญชีเงินฝาก K-eSavings ที่เปิดใช้บริการได้ง่าย ๆ โดยรายละเอียดดอกเบี้ยจะมีดังนี้ครับ
สำหรับเงินฝากจะได้รับดอกเบี้ย 1.50% ต่อปีทั้งหมดครับ
ส่วนเงื่อนไขในการคิดดอกเบี้ยจะเหมือนกับตัวอย่างที่คำนวณของธนาคาร KKP เลยครับ
8.ธนาคาร Uob
ธนาคารสุดท้ายนี้ผมยกให้เป็นของธนาคาร Uob ต้องบอกว่าเป็นธนาคารที่อยู่ท้ายสุดแต่โปรโมชันไม่ธรรมดาแบบมาก ๆ เลยครับ กับบัญชีเงินฝาก Uob stash account เพราะนอกจากจะได้ดอกเบี้ยปกติแล้ว ยังได้ดอกเบี้ยโบนัสอีกด้วย โดยรายละเอียดดอกเบี้ยจะมีดังนี้ครับ
เงินฝากในบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท ได้รับดอกเบี้ยรวมดอกเบี้ยโบนัสอยู่ที่ 0.75% ต่อปี
เงินฝากในบัญชีไม่เกิน 1 ล้านบาท ได้รับดอกเบี้ยรวมดอกเบี้ยโบนัสอยู่ที่ 1.30% ต่อปี
เงินฝากในบัญชีไม่เกิน 10 ล้านบาท ได้รับดอกเบี้ยรวมดอกเบี้ยโบนัสอยู่ที่ 1.60% ต่อปี
เงินฝากในบัญชีไม่เกิน 50 ล้านบาท ได้รับดอกเบี้ยรวมดอกเบี้ยโบนัสอยู่ที่ 1.70% ต่อปี
เงินฝากในบัญชีเกิน 50 ล้านบาท ได้รับดอกเบี้ยรวมดอกเบี้ยโบนัสอยู่ที่ 1.00% ต่อปี
ส่วนเงื่อนไขการคำนวณต่าง ๆ จะเหมือนธนาคาร kkp เลยครับ
อยากใช้เงินให้คุ้มค่า ปรึกษารีฟินน์
ส่วนใครที่อยากมีเงินฝากเพิ่มขึ้น แล้วมีบ้านที่ยังผ่อนอยู่ ผมก็แนะนำว่าอย่างลืมทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านทุก ๆ 3 ปีนะครับ เพราะจะทำให้เราได้ลดในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย แทนที่จะไปเสียดอกเบี้ยให้ธนาคาร ลดดอกเบี้ย แล้วนำส่วนต่างมาฝากรับดอกเบี้ยดีกว่าครับ นอกจากนี้ Refinn ยังมีบริการ รีไฟแนนซ์รถ และ รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี้ หรือ www.refinn.com
สรุปบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง 2567
โดยส่วนใหญ่แล้วการแข็งขันเรื่องดอกเบี้ยบัญชีเงินฝาก ปี 2567 นี้ สำหรับเงินฝากที่ไม่เกิน 1 แสนบาทส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1.50% ครับ ส่วนที่เกินก็จะได้ดอกเบี้ยลดหลั่นกันไป ดังนั้นคำแนะนำของผมเลยคืออาจจะลองดูก่อนก็ได้ว่าตัวเราเองมีบัญชีกับที่ธนาคารไหนอยู่แล้วบ้าง เริ่มจากบัญชีธนาคารใกล้ตัวก่อนก็ได้ครับจะได้ไม่ต้องวุ่นวาย ยิ่งโดยสถานการณ์โควิดแบบนี้หากต้องเดินทางเพื่อไปทำเรื่องอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย