ตกงาน ว่างงานอยู่ขอสินเชื่อบ้านแลกเงินหรือขายฝากได้ไหม

ผมได้เข้าไปอ่าน Pantip มีกระทู้หนึ่งถามประมาณว่า ไม่มีงานทำ แต่มีบ้าน 2 หลังถ้าต้องการใช้เงินสามารถทำบ้านแลกเงิน จำนอง หรือขายฝาก เพื่อนำเงินมาใช้ได้ไหม 

ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้ผมว่าคงมีเพื่อน ๆ อีกหลายคนที่กำลังประสบปัญหาและสงสัยในเรื่องนี้เช่นกัน ผมเลยนำคำถามนี้มาอธิบายให้ฟัง พร้อมกับคำแนะนำเบื้องต้นครับสำหรับคนที่กำลังเจอปัญหาแบบนี้กันอยู่

ทำความเข้าใจวิธีการขอสินเชื่อบ้าน

เพื่อไม่ให้เราหลงเข้าใจผิดกับคำทรัพย์และวิธีการต่าง ๆ ในการนำบ้านที่ผ่อนหมดแล้วไปขอสินเชื่อ เราจะต้องไปทำความรู้จักกับ 2 คำนี้ก่อนครับ

1. การจำนอง 

สำหรับการจำนอง หรืออีกชื่อที่สถาบันการเงินชอบใช้เรียนกันก็คือ บ้านแลกเงิน เป็นการนำบ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์ ที่ปลอดภาระแล้วมาใช้เป็นหลักประกันในการขอกู้ ขอสินเชื่อ

ทรัพย์สินที่จะนำมาใช้เป็นหลักประกันในสัญญาจำนอง จะต้องเป็นชื่อของผู้ที่นำทรัพย์สินมาทำสัญญาจำนองเท่านั้นครับ หรือหากเราไม่ใช้เจ้าของก็ต้องมีการมอบอำนาจจากเจ้าของทรัพย์สิน

การจำน้องจะต้องมีไปทำการจดทะเบียนต่อหน้าเจ้าหน้าที่กรมที่ดินด้วยครับว่าเป็นทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันในการจำนองอยู่ ไม่สามารถนำไปขายต่อได้ และในตอนที่ทำสัญญาจะไม่มีเรื่องของการโอนทรัพย์สินใด ๆ ทั้งสิ้นนะครับ ทรัพย์สินจะยังคงเป็นชื่อของเราอยู่ ในกรณีที่เราไม่สามารถชำระคืนได้ ผู้ให้กู้ หรือเจ้าหนี้ก็จะมีการไปฟ้องร้องในการยึดทรัพย์ครับ

2. การขายฝาก

ขายฝากเป็นรูปแบบหนึ่งของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ที่กรรมสิทธิ์หรือในที่เรากำลังพูดถึงนี้ก็คือบ้าน ของผู้ที่นำมาขายฝากจกลายเป็นของผู้รับฝากซื้อทันที แต่เราจะมีสัญญาที่ระบุว่าเราจะต้องมีการชำระเงินอย่างไร เช่น เราจะทำการชำระดอกเบี้ยทึกปี เป็นเวลา 3 ปี และในปีที่ 3 จะต้องนำเงินต้นทั้งหมดมาคืนแก่ผู้รับฝากซื้อ กรรมสิทธิ์ก็จะกลับมาเป็นของเราเช่นเดิมครับ 

โดยปกติแล้วด้วยการที่ขายฝาก กรรมสิทธิ์กลายเป็นของผู้รับฝากซื้อเมื่อมีการผิดสัญญาก็ไม่จำเป็นต้องไปฟ้องร้องต่อศาล ทำให้การขายฝากนี้จะได้วงเงินที่สูงกว่าการจำนองครับ และเท่าที่ผมทราบคือการขายฝากจะยังไม่ค่อยมีธนาคารไหนปล่อยสินเชื่อลักษณะนี้ครับ ส่วนใหญ่จะมีเพียงบ้านแลกเงิน เท่านั้น

ตกงาน ว่างงานอยู่ขอสินเชื่อบ้านแลกเงินได้ไหม

จริง ๆ แล้วรูปแบบการทำบ้านแลกเงิน (จำนอง) ที่ผมเคยเห็มาจะมีอยู่ประมาณ 2 รูปแบบ คือ

1. การทำบ้านแลกเงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงิน

ในรูปแบบนี้ก็ต้องบอกว่าธนาคารเขาก็จะมีเกณฑ์ในการพิจารณาที่สูง ดูความสามารถในการผ่อนชำระคืน ซึ่งแน่นอนว่าหากเรามีสถานะวางงาน ไม่มีรายได้ ธนาคารก็จะตีว่าเราไม่สามารถที่จะผ่อนชำระคืนได้ โอกาสการทำบ้านแลกเงินสำเร็จก็จะยากหน่อย



แต่ก็มีบางธนาคารที่เขามีการใช้เกณฑ์การพิจารณาอีกแบบ คือ เราเป็นเจ้าของบ้าน วางงานอยู่ต้องการใช้เงิน ก็สามารถใช้ญาติทางสายเลือดโดยตรง เช่น พ่อ แม่ พี่ รวมถึงภรรยา ที่มีงานประจำอยู่เป็นคนำค้ำประกันให้ได้ครับ 

2. การทำจำนองกันเองกับคนรู้จัก 

วิธีการนี้ก็จะเห็นทั่วไปได้เลยครับ เช่น เรามีบ้านและต้องการเงิน ทำกับธนาคารไม่ได้ก็ใช้วิธีไปทำการจำนองกับคนที่มีตังที่เรารู้จัก หรือมีตัวแทนที่นำเงินจากคนที่มีตังมาปล่อยอีกที ซึ่งแบบนี้ก็ต้องยอมรับว่าคงไม่ได้มีเกณฑ์ที่เข้มงวดเหมือนกับธนาคารหรือสถาบันการเงินครับ ว่างงาน ตกงานอยู่ก็สามารถไปขอกู้ได้ แต่ว่าก็จะต้องเสี่ยงในเรื่องของดอกเบี้ยที่อาจจะสูงหน่อย หรือข้อสัญญาต่าง ๆ ที่อาจจะไม่เป็นธรรมครับ

ตกงาน ว่างงานอยู่ขายฝากรับเงินก้อนได้ไหม

สำหรับการขายฝากอย่างที่บอกไปด้านบนนะครับว่าธนาคารยังไม่มีการให้บริการแบบนี้ ส่วนมาก็จะเป็นการทำกันเอง แน่นนอนว่าเกณฑ์การพิจารณาก็คงไม่ได้เข้มงวด แต่เราก็ต้องเลือกรับจากคนที่เชื่อถือได้ครับ เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้น ขายฝากกรรมสิทธิ์จะตกเป็นของผู้รับฝากซื้อเลยครับ ถ้าเราอ่านสัญญาไม่ถี่ถ้วนผิดสัญญาขึ้นมา ก็มีความเสี่ยงที่เราจะเสี่ยบ้านไปเลยครับ

ถ้าจำเป็นต้องใช้เงินควรทำอย่างไรได้บ้าง

เรื่องนี้ก็พูดอยากเลยครับ ขึ้นอยู่กับแล้วแต่บุคคลแล้วแต่เคส สิ่งที่ผมแนะนำมี 3 อย่างคือ 

1. เช็คจำนวนเงินที่เราต้องการใช้

หากจำนวนเงินที่เราจะใช้ไม่ใช้วงเงินที่สูงมาก เอามาใช้กินอยู่ในช่วงเดือนที่เราว่างงาน หากเรามีพวกบัตรกดเงินสด บัตรเครดิต ก็อาจจะใช้กดเงินออกมาใช้ก่อนครับ ถึงแม้ว่าจะดูดอกเบี้ยสูงหน่อยแต่เรายิบยืมเอามาใช้ในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้นครับ

2. รถแลกเงิน

หากมีรถที่ผ่อนหมดแล้วเราอาจจะใช้ในการขอสินเชื่อครับ ซึ่งแม้ว่าเราจะว่างงานแต่ก็จะมีบางสถาบันที่ทำได้ และเกณฑ์ในการพิจารณาก็อาจจะผ่านง่ายกว่าจากจำนวนเงินที่ไม่สูงเท่าครับ

3. ลองยื่นสมัครสินเชื่อบ้านแรกเงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินในระบบ

หากจำเป็นจริง ๆ ก็อาจจะลองใช้วิธีการยื่นกู้ร่วมกับคนในครอบครับที่มีรายได้ประจำอยู่ในการเป็นผู้ค้ำประกันให้ แต่อยากเน้นย้ำว่าใช้บริการผ่านธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เชื่อถือได้ครับเพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมาที่หลัง ซึ่งสามารถลองยื่นสมัครผ่าน Refinn ได้ครับ เช็คโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านแลกเงินที่ไหนดอกเบี้ยถูกที่สุด

สุดท้ายผมก็ขอให้ทุกคนเข้มแข็งและผ่านวิกฤตในตอนนี้ไปได้นะครับ สำหรับวิธีที่ผมได้แนะนำไปน่าจะเป็นแนวทางในการจัดการกับปัญหาในตอนนี้ได้บ้าง Refinn (รีฟินน์) ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ