อยากกู้บ้าน/คอนโดหลังที่สอง เตรียมตัวอย่างไร | Refinn
สำหรับคนที่เตรียมตัวกู้บ้านหรือกู้คอนโดหลังที่สองอยู่ คงมีข้อสงสัยว่าธนาคารใช้เกณฑ์พิจารณาเหมือนกู้หลังแรกหรือไม่ และ “ความสามารถในการชำระหนี้” คืออะไร ทำไมหลายๆครั้งเรามักจะได้ยินว่าจะกู้บ้าน/คอนโดหลังที่สองผ่านหรือไม่ขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระหนี้ วันนี้เราจะมาลงรายละเอียดเรื่องนี้กัน
ความสามารถในการชำระหนี้ คืออะไร
ลองนึกภาพดูว่า ถ้าเรามีรายได้ 40,000 บาท ทุกเดือน เท่ากับว่าเราจะสามารถกู้หนี้ยืมสินและผ่อนเดือนละ 40,000 บาทได้เลยหรือไม่? คำตอบคือ “ไม่” เพราะในความเป็นจริง เราต้องมีค่ากิน ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการผ่อนชำระค่างวด ซึ่งธนาคารก็ตระหนักถึงข้อนี้ดี ธนาคารจึงต้องประเมินก่อนปล่อยกู้บ้าน/คอนโด ให้เราก่อนทุกครั้ง ว่าเรามีความสามารถในการชำระหนี้เท่าไหร่
ตัวอย่าง นาย ก. มีรายได้เดือนละ 40,000 บาท ธนาคารจะประเมินว่า นาย ก. น่าจะมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่อเดือนประมาณ 50% (บางธนาคาร อาจจะคิดมากกว่าหรือน้อยกว่านั้น) นั่นคือ นาย ก. จะมีความสามารถในการชำระหนี้สูงสุด 20,000 บาท (หักค่าใช้จ่ายส่วนตัวออกไป)
ซึ่งใน 20,000 บาทนี้ ถ้านาย ก. ผ่อนรถยนต์เดือนละ 5,000 บาท + ผ่อนคอนโดอยู่แล้วเดือนละ 8,000 บาท = นาย ก. มีหนี้สินที่ต้องชำระเดือนละ 13,000 บาท หมายความว่า นาย ก. จะสามารถกู้อะไรก็ได้ที่ผ่อนอีกเดือนละไม่เกิน 7,000 บาท ซึ่งธนาคารจะประเมินว่า นาย ก. น่าจะสามารถขอกู้ผ่อนบ้าน/คอนโดได้ในราคานี้ได้
เราสามารถเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ของตัวเองได้หรือไม่
เราสามารถเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ ด้วยการลดภาระค่างวดอื่นๆที่เราผ่อนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มโอกาสในการกู้บ้านหรือคอนโดหลังที่สองได้มากขึ้นนั่นเอง
1. ลดค่างวด สินเชื่อบ้าน/คอนโดที่เราผ่อนอยู่ ด้วยการรีไฟแนนซ์
การรีไฟแนนซ์บ้าน หรือรีไฟแนนซ์คอนโด คือการย้ายสินเชื่อบ้านที่เราผ่อนอยู่กับธนาคารเดิม ไปอยู่กับธนาคารใหม่ที่ให้ดอกเบี้ยถูกกว่า นั่นทำให้เราสามารถลดค่างวดที่ผ่อนอยู่ให้ถูกลงได้ เนื่องจากดอกเบี้ยถูกลงนั่นเอง
ตัวอย่าง แต่เดิมผ่อนบ้านอยู่ด้วยอัตราดอกเบี้ย 7%/ปี เดือนละ 22,000 บาท ถ้ารีไฟแนนซ์แล้วดอกเบี้ยเหลือ 3%/ปี ทำให้ค่างวดลดลงเหลือเดือนละ 16,000 บาท ประหยัดไปได้เดือนละ 6,000 บาทเลยทีเดียว
ซึ่งถ้าหากคุณอยากรู้ว่า สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน/รีไฟแนนซ์คอนโด ธนาคาไรหนดอกเบี้ยถูกที่สุดในตอนนี้ ก็สามารถเข้าไปเช็คผ่านเว็บไซต์ Refinn ซึ่งรวบรวมโปรโมชั่นจาก 15 ธนาคารชั้นนำ ใช้ฟรี ไม่มีค่าบริการครับ
2. ลดภาระหนี้อื่นๆ
2.1 สำหรับบ้านที่ผ่อนอยู่
เพียงเรานำบ้านไปรีไฟแนนซ์ และขอวงเงินกู้เพิ่ม ซึ่งดอกเบี้ยจากวงเงินกู้เพิ่มจะถูกกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิต/บัตรกดเงินสดมาก ทำให้เราสามารถนำวงเงินกู้เพิ่มตรงนี้ไปปิดหนี้บัตรต่างๆ ได้เลย โดยสามารถเข้าไปเช็คโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์ล่าสุดที่ได้ 24 ชั่วโมงเลยครับ
2.2 สำหรับบ้านที่ผ่อนหมดแล้ว
บ้านที่ผ่อนหมดแล้ว (ปลอดภาระ) เราสามารถนำไปขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน ที่อัตราดอกเบี้ยประมาณ 5 - 9% เพื่อนำเงินที่ได้ไปปิดภาระหนี้สินอื่นๆ แล้วผ่อนเพียงเดือนละไม่กี่พันบาทกับธนาคาร ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้เราลดภาระหนี้ได้อย่างได้ผลเลยทีเดียว
ซึ่งวันนี้สามารถเช็คโปรโมชั่นบ้านแลกเงินจากธนาคารชั้นนำได้แล้วที่ www.refinn.com/บ้านแลกเงิน ฟรี ไม่มีค่าบริการเช่นกันครับ
เป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ในทันทีครับ เพราะว่าดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน/คอนโด นั้นมีการอัพเดทและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ผมก็อยากจะขอเชิญชวนให้เข้าไปที่ www.refinn.com/รีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อค้นหาโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์ที่รวบรวมมาจาก 15 ธนาคารชั้นนำ และอัพเดทอยู่เสมอ ที่สําคัญ ฟรี ไม่มีค่าบริการใดๆ ครับ