EMV คืออะไร ต้องรู้จักถ้าอยากให้ชีวิตง่ายขึ้น
ใครที่ใช้บัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิตในการชำระเงินอยู่ รู้ไหมครับว่ามีอีกหนึ่งเทคโนโลยีทางการเงินที่จะช่วยให้ชีวิตของเพื่อน ๆ ง่ายขึ้นไปอีกเท่าตัวนั่นก็คือ EMV หรือที่ย่อมาจาก Europa Mastercard Visa ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เรียกสั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า “บัตรชิป”
โดยในบทความนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ มาเจาะลึกถึงเจ้าบัตร Emv หรือ Emv contactless credit card กันครับ ว่าบัตร Emv มีข้อดีอะไรที่จะช่วยทำให้การใช้จ่ายของเราสะดวกมากขึ้นอีกเท่าตัว อยากจะบอกว่าถ้าเพื่อน ๆ อ่านบทความนี้จบผมรับรองเลยว่าเพื่อน ๆ จะต้องไปสมัครบัตร Emv อย่างแน่นอน
EMV คืออะไร? ทำไมถึงเพิ่มความปลอดภัยด้านการทำธุรกรรมได้
Emv คือรูปแบบการชำระเงินที่รวดเร็วและปลอดภัย เพียงแค่แตะบัตรผ่านเครื่องสแกนก็จะสามารถชำระเงินได้แล้ว เพิ่มความปลอดภัยในการใช้บัตรเป็นอย่างมาก ซึ่งบัตร EMV มีความปลอดภัยตรงที่หลังจากแตะบัตรที่เครื่องสแกนชำระเงินจะมีการให้ยืนยันตัวตน โดยสามารถตั้งรหัส PIN และใช้ได้ หรือ จะใช้การยืนยันในรูปแบบของการเซ็นชื่อก็ได้ครับ
ดังนั้นแล้วบัตร Emv นอกจากจะปลอดภัยมาก ๆ แล้วยังสามารถช่วยลดการฉ้อโกง หรือ สวมรอยในการใช้บัตรเครดิตอีกด้วยครับ ที่สำคัญเพื่อน ๆ รู้ไหมครับว่าเทคโนโลยี Emv อาจมีอยู่ในบัตรของเพื่อน ๆ ก็ได้ ซึ่งผมจะแนะนำให้ว่ามีจุดสังเกตอะไรที่ทำให้รู้ว่าบัตรของเรามีเทคโนโลยี Emv
วิธีสังเกตก็คือ ในบัตรที่มีเทคโนโลยี Emv จะมีแทบชิปสัญลักษณ์ 3 ขีดครับ ถ้าหากว่าบัตรของเรามีชิปตรงนี้ก็แสดงว่าบัตรของเรามีเทคโนโลยี emv ครับ
ข้อดี-จุดเด่นของบัตร EMV
อ่านมา 2 ย่อหน้า หลายคนอาจจะเข้าใจแล้วว่าข้อดีหลัก ๆ ของบัตร Emv คือเรื่องของความสะดวก และปลอดภัยในการใช้จ่าย แต่จริง ๆ แล้วบัตร Emv มีข้อดีมากกว่านั้นครับ ซึ่งเดี๋ยวผมจะพาเพื่อน ๆ ไปเจาะลึกในย่อหน้านี้
แต่ก่อนอื่นผมอยากให้เพื่อน ๆ ลองคิดสถานการณ์สำคัญ ๆ ดูก่อนครับ เช่น หากวันหนึ่งเรากำลังจะไปสัมภาษณ์งาน แต่เราดันตื่นสายกว่าที่ตั้งเวลาไว้จนทำให้มีเวลาเดินทางน้อยลง ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่คนต่อคิวซื้อบัตร Bts ยาวมาก จะดีกว่าไหมถ้าเพื่อน ๆ สามารถแตะบัตรชำระค่า Bts ได้เลย
ข้อดีของบัตร EMV
- ความปลอดภัย : บัตร Emv โดดเด่นในเรื่องของความปลอดภัยเพราะต้องใช้การยืนยันตัวตน
- สะดวก รวดเร็ว : ในวันที่เร่งรีบ การมีบัตร Emv นั้นช่วยให้ชีวิตของเราไม่ติดขัด อย่างในกรณีของรถไฟฟ้า (Bts) ที่ผมได้ยกตัวอย่างไป
- ไม่ต้องพกเงินสด : ข้อนี้เป็นข้อดีของการใช้บัตรอยู่แล้วครับ แต่ก็เป็นอีกข้อดีหนึ่งของบัตร Emv เช่นกัน
- ใช้ได้ทั่วโลก : แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูด้วยนะครับว่าบัตร Emv ของเรารองรับการชำระเงินที่ไหนบ้าง หรือ ร้านค้าไหนบ้างที่รองรับเครือข่ายบัตร Emv ของเรา
บัตร EMV ใช้ทำอะไรได้บ้างนะ มาดูกัน!!
รู้จักบัตร Emv และข้อดีของบัตร Emv กันไปแล้ว ในย่อหน้านี้ผมจะพาเพื่อน ๆ มาเจาะลึกกันครับว่าบัตร Emv สามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้เพื่อน ๆ ที่ถือบัตร Emv สามารถใช้บัตร Emv ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์ให้ได้มากที่สุดกันครับ มาดูกันเลยว่าบัตร Emv สามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง
ใช้ชำระค่าทางด่วน
สำหรับใครที่เดินทางด้วยทางด่วน อาจไม่สะดวกที่จะสมัคร Easy Pass หรืออาจจะไม่ได้พกเงินสด แต่บังเอิญมีบัตร Emv อยู่ เพื่อน ๆ รู้ไหมครับว่าเราสามารถใช้บัตร Emv ชำระค่าทางด่วนได้ด้วย ถือว่าสะดวกมาก ๆ และช่วยเราในยามฉุกเฉินได้ด้วยครับ
ใช้ชำระค่า BTS - MRT
ข้อนี้แน่นอนอยู่แล้วครับ เหมือนที่ผมชอบยกตัวอย่างบ่อย ๆ หนึ่งสิ่งที่สำคัญมาก ๆ สำหรับพนักงานออฟฟิศอย่างเรา ๆ ก็คือ การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะอย่าง BTS และ MRT ซึ่งก็บังเอิญว่าบัตร Emv นั้นสามารถใช้ชำระค่า BTS และ MRT ได้ด้วยเช่นกันครับ
ใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ
บัตร Emv จะช่วยให้การชำระค่าสินค้าและบริการของเพื่อน ๆ ง่ายขึ้นเพียงแค่แตะบัตรกับเครื่องชำระเงินที่รองรับการชำระด้วยบัตร Emv จากนั้นก็สามารถยืนยันตัวตนตามที่เพื่อน ๆ เซ็ทไว้ได้เลยครับ เช่น ใช้รหัส PIN หรือ ลายเซ็น
ใช้ชำระค่าบริการทางออนไลน์
นอกจากการชำระเงินในร้านค้าต่าง ๆ แล้วบัตร Emv ยังสามารถใช้ชำระค่าสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ได้อีกด้วยครับ เรียกได้ว่าสะดวกมาก ๆ ในทุกช่องทางเลย ดังนั้นเพื่อน ๆ ไม่ต้องกังวลนะครับว่าถ้าเป็นคนที่เน้นการซื้อสินค้า หรือ บริการผ่านช่องทางออนไลน์แล้วจะใช้บัตร Emv ไม่คุ้ม
ใช้สำหรับถอนเงินสด
จริง ๆ บัตร Emv จะแยกเป็นหลากหลายประเภทครับ เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถใช้บัตร Emv ในการกดเงินสดได้ครับ เช่น บัตรเดบิตที่จะมีเงินอยู่ในบัญชีอยู่แล้ว และตัวบัตรเครดิตเองก็สามารถกดเงินสดออกมาได้เช่นกัน
อยากสมัครบัตร EMV มีขั้นตอนและวิธีการอย่างไรบ้างนะ
จริง ๆ แล้วเพื่อน ๆ ที่สนใจสมัครบัตร Emv สามารถสมัครได้เลยครับในช่องทางสมัครบัตรเครดิตต่าง ๆ ซึ่งทาง Refinn เองก็สามารถสมัครได้เช่นกัน เพียงแต่เพื่อน ๆ จะต้องสังเกตก่อนครับว่าบัตรเครดิตใบนั้นมีเทคโนโลยี Emv Contactless หรือไม่ ซึ่งอาจจะสอบถามผ่านทางเจ้าหน้าที่ของ Refinn ก็ได้ครับ
แต่ถ้าเพื่อน ๆ จะใช้บัตร Emv ในการชำระค่าบริการผ่านทางรถไฟฟ้า เพื่อน ๆ จะต้องลงทะเบียนตามขั้นตอนต่อไปนี้ให้เรียบร้อยก่อนครับ
- เข้าไปที่ https://metro.bemplc.co.th/EMV-Contactless
- เลือกที่เมนู “ลงทะเบียน”
- กรอกข้อมูลต่าง ๆ ให้เรียบร้อย
- จากนั้นก็กดลงทะเบียนได้เลย
เพียงเท่านี้เพื่อน ๆ ก็สามารถสมัครบัตร Emv และนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้แล้วครับ ซึ่งวิธีการก็ไม่กี่ขั้นตอนแล้ว หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้รับประโยชน์จากวิธีการที่ผมแนะนำและนำไปทำตามกันนะครับ
สรุปข้อดีของการใช้งานบัตร EMV
อ่านจบแล้วเพื่อน ๆ คงได้ความรู้เกี่ยวกับบัตร Emv กันมาเยอะมาก ๆ แล้วใช่ไหมล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการดูว่าบัตรของเรานั้นรองรับเทคโนโลยีการชำระแบบ Emv Contactless หรือไม่ และได้รู้ถึงข้อดีของบัตร Emv กันไปแล้ว สำหรับใครที่สนใจ สมัครบัตรเครดิต ก็สามารถสมัครผ่าน Refinn ได้เลยครับ สำหรับใครที่มีข้อสงสัยเรื่องบัตร Emv หรือยังไม่เข้าใจในส่วนไหน ก็สามารถทักเข้ามาสอบถามข้อมูลผ่านทาง Refinn ได้ทุกช่องทางเลยนะครับ