ช้อปดีมีคืน 2568 จะมีไหม? เตรียมตัวลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
เดินทางมาถึงปีใหม่กันแล้วนะครับ ปีนี้หลายคนอาจจะเริ่มจ่ายภาษีกันแล้วซึ่งก็จะมีคำถาม ถามผมเข้ามาเยอะมาก ๆ เกี่ยวกับโครงการช้อปดีมีคืน 2568 ว่ายังมีอยู่มั้ย อยากช้อปลดหย่อนภาษี คำตอบก็คือ มีครับแต่ในปีนี้จะเปลี่ยนชื่อจากช้อปดีมีคืนเป็น Easy E-Receipt แทนโดยจะสามารถลดหย่อนได้สูงสุดถึง 50,000 บาทเลย ระยะเวลาโครงการจะเริ่มเดือนมกราคมถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ใครที่ถึงเวลาต้องเสียภาษีจะพลาดอ่านบทความนี้ไม่ได้เลยนะครับ รายละเอียดจะเป็นยังไงมาอ่านไปพร้อม ๆ กันเลยครับ และถ้าใครที่อยากรู้ว่ารายได้เท่าไหร่ต้องเสียภาษีผมจะมาบอกในบทความนี้ครับ
โครงการช้อปดีมีคืน คืออะไร?
สำหรับโครงการช้อปดีมีคืน 2568 จะเป็นมาตรการจากรัฐบาลที่ออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเราจะรู้อยู่แล้วว่าทุก ๆ ต้นปีจะมีการจ่ายภาษี ดังนั้นทางภาครัฐจึงเล็งเห็นว่าเราสามารถกระตุ้นให้คนใช้จ่ายเพื่อเอาส่วนต่างไปลดหย่อนภาษีได้นะ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ดีมาก ๆ โครงการหนึ่งเลยเพราะวินวินกันทั้ง 2 ฝ่าย 3 ฝ่ายเลยด้วยซ้ำ
ไม่ว่าจะเป็นเราที่ได้ทั้งสินค้าบริการแถมยังลดหย่อนภาษีได้อีก พ่อค้าแม่ค้าหรือเจ้าของธุรกิจที่ได้ขายสินค้าและบริการ รวมถึงรัฐบาลที่ได้กระตุ้นเศษฐกิจ ทำให้มีเงินหมุนเวียนใช้จ่ายในประเทศมากขึ้น ช่วยลดความตึงเครียดทางเศรษฐกิจได้ดีมาก ๆ คล้ายกับโครงการช้อปช่วยชาติในอดีตที่มีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ
ช้อปดีมีคืน 2568 จะมีหรือไม่ จะเริ่มประกาศเมื่อไหร่?
อย่างที่ผมบอกไปครับว่าโครงการช้อปดีมีคืนมีแน่นอนครับแต่จะเปลี่ยนชื่อเป็น Easy E-Receipt และโครงการ E-Receipt ประกาศไปแล้วว่าจะสิ้นสุดในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยก่อนที่เราจะไปรู้จักกับโครงการ Easy E-Receipt แบบละเอียดลึก ผมพาเพื่อน ๆ มาดู 5 ข้อที่เราต้องรู้ก่อนใช้สิทธิ์ Easy E-Receipt ครับ
- ก่อนอื่นเราต้องดูเงื่อนไขการใช้สิทธิ์ให้ดีครับ โดยใบเสร็จที่เราจะเอามาช้อปลดหย่อนภาษีในโครงการ Easy E-Receipt จะต้องออกโดยผู้ประกอบการหรือร้านค้าที่จดทะเบียน Easy E-Receipt และรายงานผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น
- ไปดูประเภทของรายจ่ายให้ดีว่าที่เราจ่ายไปสามารถเอาไปช้อปลดหย่อนภาษีในโครงการ Easy E-Receipt ได้หรือเปล่า เพราะไม่ใช่ทุกบริการที่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ตัวอย่างที่ได้ เช่น ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษา การรักษาพยาบาล หรือค่าซื้อสินค้าจากร้านที่เข้าร่วมโครงการและรายงานผลผ่านออนไลน์
- ดูขั้นตอนการลงทะเบียนให้ดี Easy E-Receipt คล้ายช้อปดีมีคืนก็จริงแต่ก็ต้องรู้ขั้นตอนลงทะเบียนด้วย โดยจะต้องลงทะเบียนผ่านกรมสรรพากร ในเว็บไซต์หรือแอปทางภาครัฐ การลงทะเบียนไม่ถูกต้องอาจทำให้ไม่ได้รับสิทธิ์ ตรงนี้ต้องระวังและศึกษาให้ดีครับ
- ดูระยะเวลาในการใช้สิทธิ์ให้ดีอย่าให้เกินเวลานะครับเนื่องจากสิทธิ์ช้อปดีมีคืน 2568 หรือ Easy E-Receipt มักจะมีรอบเวลาที่แน่นอนโดย เช่น ครอบคลุมเฉพาะช่วงระยะเวลา 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2568 และต้องยื่นภายในไม่เกินกุมภาพันธ์ 2568
- ดูข้อควรระวังและการยกเว้นให้ดี สำหรับใบเสร็จที่ไม่ผ่านกรมสรรพากรและไม่ได้ออกจากผู้ประกอบการที่ไม่ได้ลงทะเบียนและรายงานผ่านออนไลน์จะไม่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ บางประเภทของค่าใช้จ่ายเช่นค่าใช้จ่ายส่วนตัวจะไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้
Easy E-Receipt คืออะไร?
สำหรับโครงการ Easy E-Receipt จะเป็นการใช้ระบบใบเสร็จออนไลน์ที่จะช่วยให้ผู้เสียภาษีสามารถจัดเก็บข้อมูลในการใช้จ่ายเพื่อมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ โดยเฉพาะในโครงการช้อปดีมีคืน และ ช๊อปช่วยชาติ เพียงแค่จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการและรายงานผ่านระบบออนไลน์ โดยระบบจะบันทึกข้อมูลในการใช้จ่ายเพื่อให้เรานำมาลดหย่อนภาษี
เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีจากโครงการ Easy E-Receip
สำหรับใครที่ต้องการช้อปลดหย่อนภาษีในโครงการ Easy E-Receipt ที่จะมาแทนโครงการช้อปดีมีคืนต้องรู้เงื่อนไขของโครงการ Easy E-Receipt นะครับว่าเขาให้ลดหย่อนได้สูงสุด 50,000 บาทโดยจะแบ่งตามเงื่อนไขดังนี้ครับ
- 30,000 บาทแรก: สำหรับการซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้
- 20,000 บาทเพิ่มเติม: สำหรับการซื้อสินค้า OTOP และจากร้านวิสาหกิจชุมชนหรือวิสาหกิจเพื่อสังคม ที่ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ได้
เงินเดือนเท่าไหร่ต้องเสียภาษีเงินได้
มาถึงคำถามยอดฮิตเงินเดือนเท่าไรถึงต้องเสียภาษีก่อนอื่นเลยจริง ๆ แล้วทางกรมสรรพากรเขาไม่ได้นับแค่จากเงินเดือนนะครับ แต่นับจากรายได้ทั้งหมดที่เราได้รับ เช่น เราอาจจะมีรายได้หายทางดังนั้นทุกรายได้ที่เราได้ โดยจะต้องมีรายได้รายปีรวมกันเกิน 150,000 บาทถึงจะต้องเสียภาษี
หลายคนที่ช้อปลดหย่อนภาษีในโครงการ Easy E-Receipt แล้วรู้สึกว่าลดหย่อนภาษีได้น้อยเพราะรายได้เยอะรู้ไหมครับว่าถ้าเรามีบ้านและกำลังผ่อนบ้านอยู่ดอกเบี้ยบ้านลดหย่อนภาษีได้นะ โดยจะสามารถลดหย่อนได้สูงกว่า 100,000 บาทเลย
สรุป
สำหรับใครที่รู้ตัวว่าในปีที่ผ่านมาตนเองมีรายได้เกินเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี และกำลังรอประกาศโครงการEasy E-Receipt ก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดและสมัครโครงการ Easy E-Receipt ดูนะครับ เพราะเป็นโครงการที่ช่วยให้เราสามารถช้อปลดหย่อนภาษีได้ และอย่าลืมนะครับว่าเราสามารถใช้ภาษีบ้านในการลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท ใครที่อยากรู้ว่าภาษีบ้านหลังแรกสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้เท่าไรและได้อย่างไรก็สามารถทักเข้ามาปรึกษากับทาง Refinn ได้เลยนะครับ ทางเรายินได้ให้คำปรึกษา
ส่วนใครที่สนใจสินเชื่ออื่น ๆ ทาง Refinn เราก็มีสินเชื่อมากมายที่จะช่วยลดภาระทางการเงินไม่ว่าจะเป็นฝั่งบ้านอย่างสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน และบ้านแลกเงิน ฝั่งรถก็มีสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถและรถแลกเงิน และยังมีอีกมากมายตามการเงินของทุกคนเลยครับ
และถ้าใครที่อยากรู้วิธีคิดภาษี แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังำไงดีผมแนะนำให้สั้น ๆ ก่อนจากกันครับ โดยการคิดภาษีเงินได้ส่วนบุคคลจะมีคือ 2 แบบครับ คือ 1.คิดแบบขั้นบันได คือ การที่แบ่งเงินเดือนออกเป็นแต่ละส่วนและคิดตามเปอร์เซนต์ 2.คิดภาษีแบบเหมา ก็คือจะเอารายได้ทั้งหมดหลังหักจนเหลือรายได้สุทธิมาคูณ 0.5%งรถก็มีสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถและรถแลกเงิน และยังมีอีกมากมายตามการเงินของทุกคนเลยครับ