โปะบ้านแบบใหม่! หนี้บ้านลดเป็นแสน แถมยังถอนเงินที่โปะไปแล้วกลับมาใช้ได้ | Refinn
ภาพบ้าน

โปะบ้านแบบใหม่! หนี้บ้านลดเป็นแสน แถมยังถอนเงินที่โปะไปแล้วกลับมาใช้ได้

สำหรับคนที่กำลังผ่อนบ้านอยู่อาจจะไม่เคยรู้มาก่อนนะครับว่า การที่เราเอาเงินเหลือแต่ละเดือนไปจ่ายหนี้บ้านมากกว่าค่างวดปกติ (เรียกว่า “การโปะ”) นั้นจะทำให้หนี้บ้าน/คอนโด ของเราลดลงอย่างมหาศาล

เพราะว่าเงินที่เราจ่ายเกินเข้าไปนั้น จะเข้าไปลดเงินต้นที่เราเป็นหนี้กับธนาคารตรงๆ เช่น ปกติ ผมผ่อนอยู่กับธนาคารเดือนละ 20,000 บาท พอไปดูในใบเสร็จค่าผ่อนบ้าน จะพบว่าเป็นดอกเบี้ย 12,000 บาท และตัดเงินต้นแค่ 8,000 บาท (แบบนี้กว่าจะผ่อนหมด ก็แก่ตายพอดี)

แต่ถ้าเราจ่ายเงินมากกว่าค่างวด เช่น ผมจ่าย 25,000 บาท ก็จะเท่ากับว่า เป็นดอกเบี้ย 12,000 บาท ตัดเงินต้น 8,000 + 5,000 = 13,000 บาท แล้วลองคิดดูนะครับว่า ถ้าเราจ่ายแบบนี้ทุกเดือน เงินต้นเราจะลดลงอย่างทวีคูณ (เพราะสินเชื่อบ้าน คิดดอกเบี้ยลดต้นลดดอก ยิ่งเงินต้นน้อย ดอกเบี้ยก็ยิ่งถูก)โดยเงินที่เราจะเอามาโปะ ก็อาจจะเป็นเงินที่เหลือเก็บแต่ละเดือนนั่นเองครับ

________________________

ผมลองคำนวณคอนโดผมเป็นตัวอย่าง ให้ดูง่ายๆ นะครับว่า


เงินต้น 3,000,000 บาท ปกติต้องจ่ายเดือนละ 20,000 บาท

ผมจะใช้เวลาผ่อน 30 ปี (คิดเป็นดอกเบี้ยทั้งหมด 4,185,265 บาท !!! แพงกว่าราคาคอนโดอีก T-T )


แต่ถ้าผมโปะแค่เดือนละ 3,000 บาท = ผมจ่ายเดือนละ 23,000 บาท

ผมจะผ่อนเพียง 21 ปี (คิดเป็นดอกเบี้ยทั้งหมด 2,670,052 บาท ประหยัดไปได้ 1,515,213 บาท เลยนะครับ)

________________________

ทำไมคนถึงไม่ค่อยโปะบ้านกัน ?

เพราะว่าคนเราก็มีเรื่องที่ต้องใช้เงินกันอยู่แล้วครับ การที่เราเอาเงิน 3,000 บาท แต่ละเดือนไปโปะ ปกติแล้วเราจะถอนออกมาไม่ได้ ทำให้หลายคนรู้สึกว่า ยังไม่โปะ แต่เก็บเงินส่วนนี้ไว้ดีกว่า เผื่อมีกรณีที่ต้องใช้เงินฉุกเฉิน 

อีกกรณีหนึ่งก็คือ คนที่มีแผนจะใช้เงินก้อนใหญ่ปลายปี ก็เลยอยากเก็บเงินสดไว้ ไม่กล้าโปะ เพราะสุดท้ายจะถอนออกมาไม่ได้ ทำให้ต้องเอาเงินเก็บนส่วนนั้นฝากออมทรัพย์ทิ้งไว้เฉยๆ

โปะบ้านแบบใหม่ ถอนเมื่อไหร่ก็ได้

วันนี้มีข่าวดีมาบอกก็คือ เราสามารถโปะบ้านได้เท่าที่เราต้องการ และสามารถถอนเงินออกมาใช้ได้เลย (ไม่มีค่าธรรมเนียมการถอนใดๆ) จากบัตร ATM ของธนาคารเองนั่นแหละ หรือจะถอนผ่าน Mobile Banking Application แล้วโอนเงินออกไปบัญชีธนาคารอื่นก็ยังได้

โดยเงินที่เราโปะเข้าไปก่อนหน้านี้ มันจะเข้าไปลดเงินต้นที่ใช้ในการคิดดอกเบี้ยเต็มๆ และหากเราไม่ถอนเงิน เดือนถัดๆไป ธนาคารก็จะคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นที่ลดลงไปแล้วจากเงินที่เราโปะไว้

และเราสามารถถอนออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ โดยเมื่อเราถอนออกมา ดอกเบี้ยที่ธนาคารคิดให้เราในงวดที่แล้ว เค้าก็ไม่ได้กลับมาคิดค่าปรับอะไรกับเรา เพียงแค่คิดดอกเบี้ยใหม่จากเงินต้นล่าสุดนั่นเอง

ถ้าสนใจต้องสมัครอย่างไร

วันนี้เราสามารถรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้าน/คอนโด ย้ายมาผ่อนกับธนาคารใหม่ที่ให้บริการสินเชื่อรูปแบบนี้ได้ โดยเข้าไปค้นหาได้ที่ www.refinn.com แล้วเลือกวัตถุประสงค์การรีไฟแนน์ว่า “โปะคุ้มที่สุด”


ถ้าสนใจต้องสมัครอย่างไร


แล้วในหน้าเปรียบเทียบ จะมีโปรโมชั่นที่มีคำว่า “โปะได้ ถอนได้ตามใจ 24 ชม.” สามารถสมัครรีไฟแนนซ์กับธนาคารนั้นๆ ได้เลยครับ อย่างในรูปด้านล่าง จะเป็นตัวอย่างของคนที่ผ่อนบ้านอยู่ 21,000 บาท แล้วต้องการโปะ 25,000 บาทต่อเดือน ทำให้ผ่อนจาก 26 ปี เหลือเพียง 10 ปี เท่านั้นเองครับ


ถ้าสนใจต้องสมัครอย่างไร

เผยแพร่เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2561
พงศธร ธนบดีภัทร
CEO & Co-Founder ที่ช่วยคนไทยรีไฟแนนซ์ไปแล้วกว่าพันล้านบาท