ผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ดี? พร้อมดูตารางผ่อนบ้านตามเงินเดือน
ผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ดี? พร้อมดูตารางผ่อนบ้านตามเงินเดือน

ผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ถึงเหมาะสมกับเงินเดือน เช็กตารางผ่อนได้ที่นี่!

“เราแค่อยากทำงานเก็บเงินให้ได้ไว ๆ คือเราไม่เคยมีบ้านจริง ๆ เราแค่อยากมีบ้านดี ๆ ที่มั่นคงสักหลัง” ประโยคด้านบนมาจากหนังโฆษณาเรื่อง The Adjective ที่พูดถึงบ้านและมนุษย์เงินเดือนไว้

ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่คิดแบบนี้ แต่นับวัน ราคาบ้านมีแต่สูงขึ้น มนุษย์เงินเดือนอย่างเราจึงต้องอาศัยการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านหลังแรก คำถามถัดมาคือ เงินเดือนเท่านี้จะกู้เงินได้เท่าไหร่ ต้องผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่หรือบ้านผ่อนล้านละเท่าไหร่ แล้วคอนโด 2 ล้านผ่อนเดือนละเท่าไหร่คำนวณดอกเบี้ยบ้านอย่างไรและอีกมากมาย

การกู้เงินซื้อบ้านไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากที่จะทำความเข้าใจ ผมจึงสรุปทุกเรื่องมาให้ อ่านจบ เพื่อน ๆ ก็เริ่มวางแผนซื้อบ้านได้เลยทันทีครับ

อยากมีบ้านควรมีเงินเดือนเท่าไหร่?

อยากมีบ้านควรมีเงินเดือนเท่าไหร่

“อยากมีบ้านสักหลัง ต้องผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ หรือซื้อบ้านผ่อนเดือนละเท่าไหร่” เป็นคำถามที่คนอยากมีบ้านต้องอยากรู้ 

คำตอบคือ ภาระหนี้สินรวมกันไม่ควรเกิน 40% ของเงินเดือน หากยอดผ่อนบ้านต่อเดือนรวมกับหนี้อื่นแล้วไม่เกิน 40% ของเงินเดือนก็กู้เงินซื้อบ้านได้ครับ

ยกตัวอย่าง

เงินเดือน 25,000 บาท/เดือน ยอดผ่อนบ้านอยู่ที่ 10,000 บาท/เดือน

เงินเดือน 35,000 บาท/เดือน ยอดผ่อนบ้านอยู่ที่ 14,000 บาท/เดือน

ผ่อนบ้านล้านละเท่าไหร่?

อย่างที่รู้กันครับว่า บ้านเรามักประสบปัญหาเงินเฟ้ออยู่เสมอ ราคาบ้านก็สูงขึ้นทุกปี เพื่อป้องกันปัญหาหนี้เสีย ธนาคารจึงกำหนดวงเงินผ่อนบ้านที่ล้านละ 6,000 - 7,000 บาท เช่น ซื้อบ้านราคา  1,500,000 บาท ต้องผ่อนบ้านที่เดือนละ 10,500 บาท

หลังคำนวนยอดผ่อนที่ต้องชำระแล้ว ให้กลับมาดูเงินเดือนว่าเป็นเท่าไหร่ อย่างที่ผมแนะนำไปครับ ยอดผ่อนบ้านไม่ควรเกิน 40% ของเงินเดือน หากยอดผ่อนบ้านเดือนละ 10,500 บาทไม่ถึง 40% ของเงินเดือน ก็แสดงว่าบ้านราคานี้ เพื่อน ๆ สามารถกู้เงินซื้อได้ครับ

ตารางผ่อนบ้านตามเงินเดือน และวงเงินที่สามารถกู้ได้

ทุกคนรู้เงินเดือนของตัวเอง แต่พอจะกู้เงินซื้อบ้านก็คำนวณไม่ถูกใช่ไหมครับว่า เงินเดือนเท่านี้ควรมียอดผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ ต้องผ่อนบ้านล้านละเท่าไหร่ แล้วกู้เงินซื้อบ้านได้วงเงินสูงสุดที่เท่าไหร่ ผมมีสูตรคำนวณมาให้ครับ 

สูตรคำนวณยอดผ่อนต่อเดือน

กรณีไม่มีหนี้สิน

เงินเดือน x 70% = ยอดผ่อนต่อเดือน

กรณีมีหนี้สิน

เงินเดือน x 70% - หนี้สิน = ยอดผ่อนต่อเดือน

สูตรคำนวณวงเงินกู้ซื้อบ้าน

วงเงินผ่อนบ้านต่อเดือน x 1,000,000 / 7,000 = ยอดวงเงินกู้สูงสุด

เพื่อให้ง่ายขึ้น ผมได้ทำตารางเปรียบเทียบเงินเดือน ยอดผ่อนบ้านต่อเดือนและวงเงินกู้สูงสุดมาให้ครับ

ตารางเปรียบเทียบเงินเดือนกับวงเงินกู้บ้าน

การกู้เงินซื้อบ้าน ธนาคารจะพิจารณาเงื่อนไขอะไรบ้าง?

นอกจากคำถาม เงินเดือนเท่านี้ กู้เงินซื้อบ้านได้เท่าไหร่กับต้องผ่อนบ้านล้านละเท่าไหร่แล้ว ยังมีเงื่อนไขของธนาคารที่ผู้กู้ต้องนำมาขบคิดด้วยครับ

  • รายได้ประจำต่อเดือน

เงินเดือนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะธนาคารพิจารณาวงเงินกู้และความสามารถในการชำระหนี้จากเงินเดือน 

  • ความสามารถในการผ่อนชำระ

ความสามารถในการชำระหนี้เป็นสิ่งที่ธนาคารนำมาพิจารณาด้วย หากยอดหนี้ไม่เกิน 40% ของเงินเดือนก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่มีความสามารถในการผ่อนชำระ ธนาคารมีสิทธิ์อนุมัติวงเงินครับ

  • ปริมาณหนี้สินทั้งหมด

หากมีหนี้มากเกินไป ธนาคารมองว่าไม่มีความสามารถในการผ่อนบ้าน อาจทำให้กู้เงินไม่ผ่านได้ครับ

  • เครดิตทางการเงิน

เครดิตทางการเงินดีก็มีโอกาสกู้เงินผ่านครับ แต่ถ้าประวัติเสียก็มีสิทธิ์กู้เงินไม่ผ่าน ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลัง เพื่อน ๆ ควรเคลียร์หนี้ทั้งหมดก่อนและรักษาประวัติให้เป็นปกติภายใน 3 ปีก็จะกลับมาขอสินเชื่อกับธนาคารได้ครับ

เทคนิคในการผ่อนบ้านให้หมดไวขึ้น

หากกู้เงินซื้อบ้านแล้วและต้องการเป็นเจ้าของบ้านตัวจริงไว ๆ ลองนำเทคนิคผมไปใช้ จะช่วยให้ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้นได้ครับ

เทคนิคในการผ่อนบ้านให้หมดไวขึ้น

1. รีไฟแนนซ์

ดอกเบี้ยบ้านเป็นดอกเบี้ยที่มีความผันผวน ธนาคารมักให้ดอกเบี้ยถูกแค่ 3 ปีแรก ก่อนจะปรับสูงขึ้นในปีที่ 4 การรีไฟแนนซ์บ้านจึงเป็นทางออกที่ดี เพราะเป็นการยกเลิกสัญญากับธนาคารเดิมเพื่อไปทำสัญญากับธนาคารใหม่ที่ดอกเบี้ยถูกกว่า เมื่อดอกเบี้ยถูกลง ค่าบ้านก็ลดลง ทำให้ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น

2. ไม่ผิดนัดชำระ

การไม่ผิดนัดชำระช่วยรักษาเครดิตทางการเงินได้ หากผิดนัดชำระเกิน 3 เดือนและไม่สามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้ ธนาคารจะเข้ามายึดบ้าน หากรู้ตัวว่าเริ่มผ่อนบ้านไม่ไหว ผมแนะนำให้รีไฟแนนซ์บ้านแต่เนิ่น ๆ นอกจากช่วยรักษาเครดิตแล้ว ยังช่วยลดปัญหาขาดสภาพคล่องได้ครับ

3. โปะบ้านด้วยเงินก้อน

การโปะบ้านด้วยเงินก้อนใหญ่ช่วยทำให้ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น เพราะช่วยลดทั้งเงินต้นและเงินดอกเบี้ยครับ

4. ชำระค่าบ้านเกินทุกงวด

การผ่อนบ้านมากกว่าจำนวนที่ธนาคารกำหนดช่วยลดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยผ่อนบ้านให้หมดเร็วขึ้น

5. เจรจาขอลดดอกเบี้ย

หากผ่อนบ้านครบ 3 ปีและต้องการลดดอกเบี้ยให้ถูกลง ผมแนะนำให้เจรจาขอลดดอกเบี้ยหรือรีเทนชั่นกับธนาคาร ซึ่งธนาคารจะเสนออัตราดอกเบี้ยที่สามารถลดให้ได้ เป็นการเจรจาขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม จึงไม่ต้องเตรียมเอกสารและไม่ต้องจ่ายค่าดำเนินการครับ

6. ไม่สร้างภาระเพิ่มและหารายได้เสริม

หากต้องการเป็นเจ้าของบ้านเร็วขึ้นก็ไม่ควรสร้างภาระหนี้เพิ่มและมุ่งหน้าผ่อนบ้านอย่างเดียวจนหมด หากมีเวลา การหารายได้เสริมและนำเงินมาผ่อนบ้านเกินยอดผ่อนทุกงวดก็จะยิ่งช่วยให้ผ่อนบ้านหมดไวขึ้นครับ

เอกสารที่ต้องเตรียมก่อนกู้เงินซื้อบ้าน

การกู้เงินซื้อบ้านคือการขอสินเชื่อบ้านรูปแบบหนึ่ง บางคนอาจเป็นการซื้อบ้านหลังแรก เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อขอสินเชื่อกับธนาคารมีรายละเอียดมากมาย ผมสรุปให้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ครับ

เอกสารส่วนตัว

  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
  • สำเนาการเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี)

เอกสารแสดงรายได้

  • สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน
  • สมุดบัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน
  • หนังสือรับรองเงินเดือน

เอกสารหลักประกัน

  • สำเนาโฉนดที่ดิน
  • สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย
  • แผนที่แสดงที่ตั้งของบ้าน

คำถามที่พบบ่อย

ซื้อบ้าน 1 ล้าน ผ่อนเดือนละกี่บาท?

หากซื้อบ้านราคา 1 ล้านบาท ต้องผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ คำตอบคือ บ้าน 1 ล้าน ผ่อนเดือนละ 6,000 - 7,000 บาทครับ

ทำไมถึงกู้เงินซื้อบ้านไม่ผ่าน?

การกู้เงินไม่ผ่านมีหลายสาเหตุ นั่นคือ 

  • มีประวัติผิดชำระหนี้
  • ไม่เคยมีประวัติชำระหนี้ 
  • มีหนี้สินเยอะเกินไป
  • ฐานเงินเดือนไม่เพียงพอ
  • มีประวัติการค้่ำประกัน แล้วบุคคลที่ค้ำประกันให้มีประวัติทางการเงินไม่ดี อาจทำให้กู้เงินซื้อบ้านไม่ผ่านครับ

กู้เงินซื้อบ้านคนเดียวได้ไหม?

กู้เงินซื้อบ้านคนเดียวได้ หากธนาคารมองว่าฐานเงินเดือนนั้นเพียงพอและไม่มีปัจจัยเสี่ยงอื่น แต่มีข้อเสียคือ วงเงินที่ได้อาจไม่สูงเท่าการกู้ร่วมและหากธนาคารยังไม่วางใจ อาจจะขอให้ผู้กู้หาคนมาค้ำประกันให้ ผู้กู้ก็ต้องหาบุคคลที่เชื่อถือได้มาค้ำประกันเพื่อกู้เงินซื้อบ้านครับ

สรุป

การขอสินเชื่อบ้านนั้นไม่ยาก หากศึกษาและเตรียมตัวให้ดีทั้งด้านการเงิน ความรู้เกี่ยวกับการกู้เงิน รวมไปถึงความพร้อมด้านเอกสารและเตรียมใจที่จะผ่อนบ้านกับธนาคารไปอีกหลายปี 

เพื่อให้การกู้เงินนั้นง่ายขึ้น ผมแนะนำให้ใช้บริการขอสินเชื่อผ่าน Refinn ที่ช่วยเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและสมัครสินเชื่อบ้านผ่านเว็บไซต์ Refinn ได้ทุกธนาคาร มีผู้ช่วยคอยให้คำปรึกษาและช่วยบริหารสภาพคล่องทางการเงินก่อนทำการกู้เงินซื้อบ้านด้วยครับ บริการของ Refinn นั้นฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เลย ครั้งหน้า ผมมีเรื่องของบ้านมาฝากอีก ฝากติดตามนะครับ

เผยแพร่เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2567
Refinn Writer
ช่วยเปรียบเทียบโปรโมชั่นที่ประหยัดดอกเบี้ยที่สุด ฟรี ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม