รวมข้อน่ารู้เกี่ยวกับบัตร Mastercard แตกต่างจากบัตร Visa อย่างไร?
เพื่อน ๆ คงจะทราบกันดีกว่าบัตรเครดิตมีหลากหลายประเภท โดยที่แต่ละประเภทก็จะมีรูปแบบการใช้งานที่ต่างกัน และจะมอบสิทธิประโยชน์ให้กับเราได้ตามการใช้งาน แต่สิ่งที่หลายคนมองข้ามและมักจะยังไม่ทราบกันนั่นคือเรื่องของสกุลบัตรอย่าง Mastercard และ Visa ซึ่งข้อแตกต่าง ระหว่าง วีซ่า กับ มาสเตอร์การ์ด ก็มีความสนใจไม่แพ้กัน ในบทความนี้ผมได้รวบรวมสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับบัตร มาสเตอร์การ์ด กับ วีซ่า ว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เราลองมาดูกัน
บัตรมาสเตอร์การ์ด (Mastercard) คืออะไร?
บัตร มาสเตอร์การ์ด คือ บัตรเครดิตประเภทหนึ่งที่ถูกสร้างครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับความร่วมมือของ 4 ธนาคารในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยที่ทั้ง 4 ธนาคารนี้จะเป็นตัวกลางที่การันตีว่าบัตรมาสเตอร์การ์ดที่เป็นบัตรเครดิตและบัตรเดบิตสามารถใช้งานได้ทั่วโลก และยังรองรับสกุลเงินได้ในหลายประเทศ ทำให้เราไม่จำเป็นต้องแลกสกุลเงินต่างประเทศมากนัก เพียงมีบัตร Mastercard ก็สามารถใช้จ่ายได้ทันที โดยที่จะสามารถแบ่งประเภทได้ ดังนี้
- MasterCard Standard บัตรระดับเริ่มต้น ที่มอบความช่วยเหลือต่าง ๆ รวมไปถึงเงินในยามฉุกเฉิน
- MasterCard Gold เป็นบัตรระดับที่สูงขึ้น กับการช่วยเหลือเหตุด่วนบนท้องถนน และบริการติดต่อสถานทูตพร้อมล่ามแปลภาษา
- MasterCard Platinum เป็นบัตรในระดับแพลตตินั่ม ที่มีประกันสินค้าเสียหาย รวมไปถึงมีผู้ช่วยทางด้านการเงิน
- MasterCard World บัตรระดับสูง ที่มีบริการผู้ช่วยส่วนตัว และบริการที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเข้าพักโรงแรม
MasterCard World Elite บัตรมาสเตอร์การ์ดระดับสูงสุด ที่นอกจากการบริการอื่น ๆ ทั้งหมด ยังได้รับส่วนลดพิเศษ โดยเฉพาะจากการท่องเที่ยว
Mastercard กับ Visa ต่างกันหรือไม่?
ข้อแตกต่าง ระหว่าง วีซ่า กับ มาสเตอร์การ์ด นั้นเรียกได้ว่าแทบไม่มีความแตกต่างกันเลย เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นมาสเตอร์การ์ด กับ วีซ่า ก็สามารถชำระเงินจากต่างประเทศได้เหมือนกัน เนื่องจากเป็นบัตรทั้งสองแบบที่ได้รับการยอมรับแบบสากลทั่วโลก
แต่สิ่งที่มีความแตกต่างของบัตร Mastercard และ Visa นั่นคือเรื่องของ “โปรโมชั่นบัตร” และ “บริษัทที่ออกบัตร” นั่นเอง ซึ่งสำหรับบริษัทที่ออกบัตรวีซ่าจะเป็นแบงก์ชาติอเมริกา หรือ Bank of America ซึ่งมีการเปิดตัวมาก่อนบัตรมาสเตอร์การ์ดกว่า 8 ปี และหลังจากนั้นก็ได้มีบัตรมาสเตอร์การ์ดเกิดขึ้นตามมา
ส่วนเรื่องของโปรโมชั่นบัตรจะขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ ในบางประเทศบัตรวีซ่าอาจมีโปรโมชั่นมากกว่า หรือในบางประเทศบัตรมาสเตอร์การ์ดก็มีสิทธิประโยชน์มากกว่า ซึ่งทำให้หลายคนเลือกสมัครบัตรเครดิตไว้ทั้งสองแบบทั้ง มาสเตอร์การ์ด กับ วีซ่า เพื่อการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น และความคุ้มค่าที่มากที่สุดนั่นเอง
รวมบัตรมาสเตอร์การ์ด ใบไหนน่าใช้ เลือกธนาคารไหนดี
คำถามยอดฮิตอย่าง “บัตร เครดิต มาสเตอร์การ์ด ใบไหนดีที่ตอบโจทย์?” ผมได้รวบรวมบัตรมาสเตอร์การ์ดที่น่าสนใจมาให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันครับ ลองเปรียบเทียบบัตรเครดิตในเรื่องของความคุ้มค่ากันได้เลย สำหรับการแนะนำบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด จะมีอะไรบ้าง ลองมาดูพร้อม ๆ กัน
1. UOB PREMIER
สิทธิพิเศษจากบัตรเครดิต มีดังนี้
- รับคะแนนสะสม UOB Reward + ทุกการใช้จ่าย
- ทุก 25 บาท รับ 4 คะแนนสะสมสำหรับการใช้จ่ายภายในห้างสรรพสินค้า และร้าน Duty Free
- ทุก 25 บาท รับ 2 คะแนนสะสม สำหรับทุกยอดใช้จ่ายอื่น ๆ
- สามารถรับเครดิตเงินคืนได้สูงสุด 5% จากการช้อปปิ้งที่ร้านค้า Foodland Supermarket, Tops Supermarket, Central Food Hall, Home Fresh Mart, Villa Market และ Gourmet Market
- สามารถแลกคะแนนรับเครดิตเงินคืนได้สูงสุด 15% สำหรับการช้อปปิ้งร้านค้าในเครือ Emquartier, The Mall Emporium และ Central ทุกสาขา
- สามารถแบ่งชำระค่าสินค้าได้ 0% 3 เดือน จากสินค้าในหมวดหมู่ Fashion
2. UOB World
สิทธิพิเศษจากบัตรเครดิต UOB World :
- ทุกการใช้จ่าย 25 บาท ใน หมวดร้านอาหาร ท่องเที่ยว สกุลเงินต่างประเทศ ออนไลน์และ e-wallet รับคะแนนสะสม 5 เท่า
- ทุกการใช้จ่าย 25 บาท ในหมวดอื่น ๆ หรือเกินจากที่กำหนด รับคะแนนสะสม 2 เท่า
- ทุกการใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้าช่วงเดือนเกิด รับคะแนนสะสม 10 เท่า และแลก e-Coupon ด้วยอัตราคะแนนสะสมพิเศษ
3. UOB One Mastercard
สิทธิพิเศษจากบัตรเครดิต UOB One Mastercard :
- เครดิตเงินคืน 10% ที่รถไฟฟ้า รถไฟฟ้า MRT ที่คาเฟ่อเมซอน
- เครดิตเงินคืน 5% ที่ 7-Eleven Grab และร้านวัตสัน
- สิทธิ์ซื้อบัตรชมภาพยนตร์ 1 ฟรี 1 ที่โรงภาพยนตร์ในเครือ SF Cinema
4. KTC PLATINUM MASTERCARD
สิทธิพิเศษจากบัตรเครดิต KTC PLATINUM MASTERCARD :
- ประกันภัยซื้อสินค้าออนไลน์ วงเงินสูงสุด 200 ดอลล่าร์สหรัฐ
- ผ่อนชำระดอกเบี้ยพิเศษ 0.69% เมื่อช้อปปิ้งที่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฮ่องกง และ สิงคโปร์
- ประกันอุบัติเหตุการเดินทาง คุ้มครองสูงสุด 8,000,000 บาท และประกันกระเป๋าเดินทางสูงสุด 40,000 บาท
- สมาชิกใหม่บัตรเครดิต KTC คุ้มครองอุบัติเหตุวงเงิน สูงสุด 300,000 บาท นาน 90 วัน
5. KTC CASH BACK PLATINUM MASTERCARD
สิทธิพิเศษจากบัตรเครดิต KTC CASH BACK PLATINUM MASTERCARD :
- รับเงินคืนกลับเข้าบัญชีง่ายๆ สูงสุดทันทีถึง 0.8%*
- 1. จ่ายน้อยกว่า 30,001 บาท รับเครดิตเงินคืน 0.40%
- 2. จ่ายตั้งแต่ 30,001 - 80,000 บาท รับเครดิตเงินคืน 0.60%
- 3. จ่ายมากกว่า 80,000 บาท รับเครดิตเงินคืน 0.80%
- ผ่อนชำระสินค้าดอกเบี้ยพิเศษ 0% สูงสุด 10 เดือน
- ประกันภัยซื้อสินค้าออนไลน์ วงเงินสูงสุด 200 ดอลล่าร์สหรัฐ
- ประกันอุบัติเหตุการเดินทาง คุ้มครองสูงสุด 8,000,000 บาท และประกันกระเป๋าเดินทางสูงสุด 40,000 บาท
- สมาชิกใหม่บัตรเครดิต KTC คุ้มครองอุบัติเหตุวงเงิน สูงสุด 300,000 บาท นาน 90 วัน
6. BBL TITANIUM
สิทธิพิเศษจากบัตรเครดิต BBL TITANIUM :
- รับเครดิตเงินคืน 0.50% ยอดใช้จ่ายไม่เกิน 25,000 บาท/ รอบบัญชี
- รับเครดิตเงินคืน 0.75% ยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 25,001 - 100,000 บาท/ รอบบัญชี
- รับเครดิตเงินคืน 1% ยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 100,001 - 200,000 บาท/ รอบบัญชี
- รับเครดิตเงินคืน 2% ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเกิน 200,000 บาทขึ้นไป/ รอบบัญชี
- ช้อปปิ้ง รับส่วนลดทั้งร้านโดยไม่มียอดใช้จ่ายขั้นต่ำ
- คุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุขณะโดยสารในยานพาหนะสาธารณะ
สมัครบัตรเครดิตผ่าน Refinn ไม่ยุ่งยาก
มีบัตรเครดิตที่สนใจ แต่ไม่รู้จะสมัครที่ไหน ลองมาสมัคร บัตร มาสเตอร์การ์ดกับ Refinn ได้เลย เพราะว่าเราได้รวบรวมบัตรมาสเตอร์การ์ด และ บัตรวีซ่า ที่มากไปด้วยสิทธิประโยชน์มาให้เพื่อน ๆ ได้เลือกหลากหลาย และยังสามารถเปรียบเทียบความคุ้มค่าระหว่างบัตรเครดิตได้ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตฟรีค่าธรรมเนียม เพียงแค่กรอกข้อมูลในเว็บไซต์ และจะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการและให้คำปรึกษาตลอดการใช้บริการ ที่สำคัญยังสามารถใช้บริการได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงเท่านี้ก็จะได้บัตรเครดิตที่ตรงตามการใช้งานขอเราได้ง่าย ๆ
สรุปเกี่ยวกับบัตรมาสเตอร์การ์ด
เพราะฉะนั้นแล้วการใช้บัตรเครดิตไม่ว่าจะเป็นบัตรมาสเตอร์การ์ด หรือ วีซ่าก็สามารถใช้งานได้ง่าย ๆ ทั้งภายในและนอกประเทศ แต่ก่อนเลือกใช้งานที่ต่างประเทศเราควรศึกษารายละเอียดก่อนว่าในประเทศนั้นได้มีการเน้นใช้บัตรประเภทใดเป็นสำคัญ เพื่อการใช้งานอย่างคุ้มค่าที่สุดของเรา และถ้าหากว่าสนใจทำบัตรเครดิตซักใบ ลองเข้ามาใช้บริการฟรีได้ที่ Refinn เป็นเว็บไซต์ที่จะทำให้คุณได้ประหยัดเวลากับการหาบัตรเครดิต และสมัครบัตรเครดิตได้ง่าย ๆ จากที่บ้านนั่นเองครับ