Contactless รูปแบบการชำระเงินแบบใหม่ สะดวกขึ้นไปอีก
ไหนใครใช้บัตรเครดิตกันอยู่บ้างเอ่ย รู้ไหมครับว่าตอนนี้มีเทคโนโลยีการชำระเงินที่รวดเร็วและช่วยให้การชำระเงินของเพื่อน ๆ ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นนั่นก็คือ Contactless หรือ ที่เรียกว่า Contactless card ซึ่งบทความนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ มารู้จักกับเทคโนโลยี Contactless กันว่าคืออะไร และมีข้อดียังไงบ้างถึงทำให้การชำระเงินของเราสะดวกมากขึ้นเป็นเท่าตัว แถมยังปลอดภัยหายห่วงด้วยการยืนยันผ่าน PIN หรือ การเซ็นลายเซ็น แถมทาง Refinn ยังมีบัตรเครดิตฟรีค่าธรรมเนียม ที่มีเทคโนโลยี Contactless ด้วยครับ
เพราะในยุคปัจจุบันเป็นยุคแห่งเทคโนโลยี และเทคโนโลยีทางการเงินนั้นค่อนข้างเติบโตและช่วยให้ชีวิตของเราดีขึ้นทั้งในเรื่องของความสะดวกสบาย ในชั่วโมงเร่งรีบก็สามารถใช้จ่ายได้อย่างทันท่วงที แถมยังช่วยเรื่องความปลอดภัยที่มากขึ้นอีกด้วย ป้องกันการโจรกรรมทางธุรกรรม และอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นเรามาใช้เทคโนโลยีทางการเงินให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์กับเรากันดีกว่าครับ
การจ่ายเงินไร้การสัมผัส (Contactless) คืออะไร?
Contactless card คือ ชิปที่ฝังอยู่บนหน้าบัตรเครดิต ซึ่งสังเกตได้ง่าย ๆ ก็คือ จะเป็นรูปขีด 3 ขีด โดยจะแปะอยู่ที่หน้าบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิตครับ เวลาชำระเงินเราเพียงแค่แตะกับเครื่องจ่ายเงิน เพียงเท่านี้ก็สามารถชำระเงินได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าสินค้า หรือ บริการ ก็สามารถชำระได้เหมือนบัตรเครดิตทั่ว ๆ ไปครับ
ดังนั้นแล้วหากเทียบกับการใช้เงินสด เงินสดนั้นทั้งพกยากหากต้องพกในปริมาณที่เยอะ ๆ แถมยังเสี่ยงสูญหายอีก หากเพื่อน ๆ คนไหนที่ต้องใช้จ่ายต่อวันบ่อย ๆ และมีชั่วโมงที่เร่งรีบมาก ๆ การพกเงินสดก็อาจจะไม่สะดวกเหมือนการใช้บัตรเครดิต Contactless ใช่ไหมล่ะครับ ดังนั้นทางที่ดีผมแนะนำให้ใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีการเงินปัจจุบันให้มาก ๆ จะดีที่สุดครับ
ข้อดีและประโยชน์ของการจ่ายเงินแบบ Contactless
สำหรับเทคโนโลยี Contactless นั้นมีข้อดีมากมายเลยครับที่จะช่วยให้ชีวิตของเพื่อน ๆ ดีขึ้น เพราะเทคโนโลยีนั้นเข้ามาเพื่อช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ใช้ดีขึ้น เรามาดูข้อดีของบัตร contactless กันเลยครับว่ามีอะไรบ้าง
- รวดเร็ว ชำระเงินได้ทันใจ : บัตร Contactless นั้นสามารถชำระเงินได้เพียงแค่แตะบัตร สมมุติว่าวันหนึ่งเพื่อน ๆ กำลังซื้อของอยู่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต และอยู่ดี ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น โดยปลายสายพูดว่า “รีบมาด่วน พ่อไม่สบายตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาท” ในสถานการณ์แบบนี้มี 2 ทางเลือกให้เลือกคือ 1.ทิ้งของที่ซื้อเพราะถ้าจ่ายเงินก็ต้องเสียเวลา 2.จะดีกว่าไหมถ้าชำระเงินได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่แตะบัตร
- ปลอดภัย หายห่วง : บัตร Contactless ใช่ว่าใครจะใช้ก็ได้นะครับ เพราะหลังจากแตะจะต้องทำการยืนยันตัวตนด้วย ซึ่งเพื่อน ๆ จะกำหนดเป็นรหัส PIN หรือจะใช้การยืนยันตัวด้วยลายเซ็นก็ได้ครับ
- ง่าย ไม่ต้องพกเงินสด : การที่เราใช้บัตร Contactless จะช่วยให้เราไม่ต้องพกเงินสดครับ ยิ่งไปกว่านั้นในกรณีที่เพื่อน ๆ ไปต่างประเทศ ถ้าใช้เงินสดก็ต้องไปแลกเงินอีก เสียเวลาใช่ไหมล่ะครับ แต่ถ้ามีบัตร contactless เพื่อน ๆ สามารถใช้ชำระค่าสินค้าและบริการได้ทั่วโลกเลยครับ โดยจะต้องดูก่อนนะครับว่าร้านค้านั้นรับชำระด้วยเครือข่ายบัตร contactless ของเพื่อน ๆ หรือเปล่า
ทำไม Contactless ถึงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
อย่างที่ผมได้เน้นย้ำไปในหลาย ๆ ย่อหน้าครับว่า Contactless หรือ Contactless payment คือระบบการชำระเงินที่รวดเร็วและปลอดภัยมาก ๆ ครับ ผนวกกับเราอยู่ในยุคเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ทำให้เทคโนโลยีทางการเงินถูกพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเลยทำให้การชำระเงินแบบ contactless ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากครับ
นอกจากนี้บัตร contactless ยังสามารถใช้กับขนส่งสาธารณะอย่าง BTS และ MRT ได้ด้วยครับเพียงเข้าไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ของรถไฟฟ้าและกรอกข้อมูลตามขั้นตอน ทีนี้เวลาเพื่อน ๆ เดินทางด้วยรถไฟฟ้าเพียงแค่แตะบัตรก็สามารถชำระเงินได้แล้วครับ
ซึ่งทาง Refinn เองเราก็แนะนำและอยากให้ลูกค้าของเราติดตามและใช้เทคโนโลยีการเงินในปัจจุบันให้คุ้มค่า เท่าทัน และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตัวของทุกคนครับ และด้วยกับการแพร่ระบาดของมิจฉาชีพในปัจจุบัน ทางเราจึงยิ่งอยากแนะนำ Contactless ให้เพื่อน ๆ เลยเนื่องจากมีความปลอดภัยมากกว่ารูปแบบการชำระเงินอื่น ๆ
การชำระเงินไร้สัมผัส (Contactless) มีทั้งหมดกี่ประเภท
ทำความเข้าใจความหมายและข้อดีของ Contactless กันไปแล้วนะครับว่าเทคโนโลยี Contactless คืออะไร มีข้อดีอย่างไรบ้าง และมีจุดสังเกตอะไรที่ทำให้รู้ว่าบัตรใบนั้นมีเทคโนโลยีการชำระเงินด้วย Contactless ต่อมาผมจะพามาเจาะลึกว่าเทคโนโลยี contactless มีกี่แบบที่เราสามารถใช้ชำระได้ เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้นำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันกันไม่ว่าจะเป็นการชำระค่าสินค้าและบริการผ่านช่องทางออฟไลน์ หรือ การชำระค่าสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยครับ
การชำระเงินผ่านบัครเดบิต-เครดิต
สำหรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิต จะต้องสังเกตก่อนครับว่าบัตรของเรารองรับการชำระเงินด้วยเทคโนโลยี Contactless หรือเปล่าโดยสามารถสังเกตได้จากสัญลักษณ์หน้าบัตรเครดิต ถ้าหากมีสัญลักษณ์ขีด 3 ขีดที่หน้าบัตรแสดงว่าบัตรของเรามีเทคโนโลยี Contactless ดังนั้นเราสามารถใช้บัตรของเราแตะกับเครื่องชำระเงิน เพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการได้เลยครับ
การโอนเงินผ่านธนาคาร
วิธีนี้ทำได้ง่ายมากครับ เพียงแค่เราเปิดแอปพลิเคชันธนาคารในสมาร์ตโฟนของเราขึ้นมา หากใครไม่มีก็สามารถดาวน์โหลดได้เลยครับ ใน Android สามารถดาวน์โหลดผ่าน Play Store ได้เลย ส่วนใครใช้ระบบ ios ก็สามารถดาวน์โหลดผ่าน App Store ได้เลยครับ
วิธีการใช้ Contactless ในแอปธนาคารทำได้ดังนี้ครับ ก่อนอื่นเปิดแอปพลิเคชันขึ้นมา กดไปที่เมนูธุรกรรม และเลือกทำรายการที่ต้องการได้เลย แต่ทั้งนี้จะต้องมาการลงทะเบียนกับร้านค้าให้เรียบร้อยก่อน แต่วิธีนี้ก็มีข้อเสียและอาจจะยุ่งยากตรงที่ทางร้านต้องบอกเบอร์บัญชีเรา และเราต้องกรอกเบอร์บัญชีที่ร้านบอกลงไป ระบบจึงจะตัดเงินแบบอัตโนมัติ
การชำระเงินในรูปแบบ E-Wallet
วิธีนี้อาจจะดูยุ่งยากนิดนึงครับ ตรงที่เราจะต้องทำการดาวน์โหลดแอปของผู้ให้บริการ E-Wallet ในประเทศไทยก่อน ซึ่งในประเทศไทยก็มีอยู่หลายเจ้าเลยครับ เช่น True Money Wallet ทีนี้พอเราจะจ่ายเงิน เราจะต้องทำการเติมเงินเข้าไปในแอป True Money Wallet ก่อน แล้วจึงจะสามารถชำระเงินผ่านแอปได้ครับ
การชำระเงินด้วย QR Code
วิธีนี้เราอาจจะได้เห็นกันบ่อย ๆ ในปัจจุบัน เช่น เวลาเราไปซื้ออาหารตามตลาด ทางร้านค้าต่าง ๆ เขาจะแปะ Qr Code ให้เราสแกนเวลาชำระเงิน เพียงแค่เราสแกนและกรอกจำนวนเงินที่ต้องการจ่ายก็สามารถจ่ายเงินได้แล้วครับ หรือในกรณีที่เราเป็นคนรับเงิน เราสามารถเข้าไปที่แอปธนาคารแล้วเลือกรับเงินด้วย Qr Code โดยสามารถกำหนดได้ด้วยว่าเราต้องการรับเงินจำนวนเท่าไหร่
การชำระเงินในรูปแบบ PromptPay
พร้อมเพย์จะเป็นการผูกบัญชีของเราเข้ากับเบอร์โทรศัพท์หรือเลขบัตรประชาชนของเราพอเวลาที่เราจะชำระเงิน หรือ แม้แต่จะทำ Qr Code เราก็สามารถใช้พร้อมเพย์ในการชำระเงิน หรือ รับเงินได้เลยครับ เป็นวิธีที่ดีมาก ๆ ครับทั้งสะดวกและเป็นที่นิยมในปัจจุบันแบบมาก ๆ
ข้อควรรู้ก่อนเปลี่ยนมาใช้ระบบชำระเงินแบบ Contactless
สำหรับเทคโนโลยี Contactless จะแบ่งออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ คือในรูปแบบของบัตร และรูปแบบของแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนครับ ดังนั้นอาจจะไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้ เช่น บางคนก็อาจจะไม่ได้มีรายได้เข้าเกณฑ์ที่สามารถสมัครบัตรเครดิตได้ หรือ บางคนก็อาจจะไม่ได้สมัครบัญชีธนาคาร ยิ่งบางคนเช่น คนสูงอายุหรือคนที่อยู่ห่างไกลความเจริญอาจจะเข้าไม่ถึงสมาร์ตโฟน หรือ แอปพลิเคชัน ดังนั้นการที่จะใช้ Contactless ก็ต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความเจริญหน่อยครับ
สรุปจุดเด่นของระบบการชำระเงินไร้สัมผัส (Contactless)
เห็นกันแล้วใช่ไหมครับว่าเทคโนโลยี Contactless ดีขนาดไหน การที่เทคโนโลยีทางการเงินพัฒนามาจนถึงจุดนี้ เราที่มีโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ ก็อย่าพลาดโอกาสทำให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้นเลยครับ ซึ่งใครที่สนใจสมัครบัตรเครดิตที่มีเทคโนโลยี Contactless ก็สามารถเข้ามาปรึกษา เปรียบเทียบ และสมัครผ่าน Refinn ได้เลยครับ