สินเชื่อรวมหนี้ รวมหนี้บัตรหลายใบเป็นก้อนเดียว

ใครกำลังมีปัญหาเรื่องหนี้ โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิตจากธนาคารหลาย ๆ แห่ง การไล่ตามชำระหนี้ถือเป็นเรื่องที่วุ่นวาย และอาจทำให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งหนึ่งในทางเลือกสำหรับคนที่มีปัญหานี้ นั่นก็คือการขอสินเชื่อรวมหนี้ 2566 เพื่อที่จะรวมปัญหาทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน และทำให้ปัญหาที่มีลดน้อยหรือเบาบางลง

ในปัจจุบันนี้ มีสินเชื่อรวมหนี้ที่ช่วยรวมหนี้บัตรเครดิต หรือหนี้อื่น ๆ อย่างบัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคล จากธนาคารชื่อดังมากมาย ซึ่งบทความนี้ผมจะมาอธิบายถึงความหมายของการขอสินเชื่อประเภทนี้ รวมถึงอธิบายรายละเอียดการแบ่งประเภท และคุณประโยชน์ที่เพื่อน ๆ จะได้รับจากการขอสินเชื่อ ตลอดจนอธิบายว่าคนที่ต้องการสินเชื่อตัวนี้ต้องเตรียมตัวอย่างไร มีขั้นตอนหรือธนาคารไหนที่น่าสนใจบ้าง มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลย

สินเชื่อรวมหนี้ คืออะไร

สินเชื่อรวมหนี้ คือ สินเชื่อประเภทหนึ่งที่จะช่วยเปลี่ยนเอาหนี้ทั้งหมดที่เรามี ให้เหลือเป็นหนี้ก้อนเดียว โดยเป็นเหมือนกับการออกเงินกู้ก้อนใหม่ เพื่อไปโปะหนี้ก้อนเก่าให้หมดไป และทำการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้เราจะสามารถเลือกระยะเวลาในการผ่อนจ่ายได้ยาวนานขึ้น ซึ่งก็จะทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนของเราลดลงได้ครับ

สินเชื่อรวมหนี้ มีกี่แบบ

สำหรับสินเชื่อรวมหนี้แล้วจริง ๆ มีหลากหลายประเภทครับแต่ในบทความนี้ผมจะพูดถึงสินเชื่อรวมหนี้ 2 ประเภทที่คนมันทำกันและเป็นประเภทหลัก ๆ ที่ทุกธนาคารต้องมี

1. การรวมหนี้ภายในสถาบันการเงินเดียวกัน 

อธิบายง่าย ๆ นะครับก็คือการที่เรารวมหนี้บัตรต่าง ๆ ที่มาจากธนาคารเดียวกัน เช่น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลจากธนาคาร A ธนาคารเดียวไปยังธนาคาร B



2.  การรวมหนี้ระหว่างสถาบัน 

อันนี้ก็ง่ายเลยครับเช่น เรามีหน้าบัตรเครดิตอยู่ที่ธนาคาร A บัตรกดเงินสดอยู่ที่ธนาคาร B และสินเชื่อส่วนบุคคลอยู่ที่ธนาคาร C หรือบางคนอาจจะมีแค่หนี้บัตรเครดิตแต่มีอยู่ทั้งที่ธนาคาร ABC เลย ก็ทำการรวมหนี้เหล่านั้นน่ะให้มาเป็นก้อนเดียวที่ธนาคาร D แล้วผ่อนจ่ายกับธนาคาร D เพียงธนาคารเดียว

สินเชื่อรวมหนี้ช่วยอะไรได้บ้าง

หลังจากที่รู้จักความหมายและประเภทของสินเชื่อรวมหนี้ไปแล้ว ลองมาพิจารณาถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากสินเชื่อตัวนี้กันบ้างดีกว่าครับว่าสินเชื่อรวมหนี้สามารถช่วยอะไรเราได้บ้าง

1.จัดการหนี้ได้สะดวกมากขึ้น

สินเชื่อรวมหนี้มีประโยชน์ในการจัดการหนี้หลาย ๆ ก้อน ให้กลายเป็นหนี้ก้อนเดียว ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้การบริหารจัดการและการชำระหนี้เป็นไปได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องติดต่อธนาคารหลายธนาคารอีกต่อไป

2. ยืดระยะเวลาในการผ่อนชำระ ผ่อนถูกลง

สินเชื่อรวมหนี้เราจะสามารถเลือกระยะเวลาในการผ่อนใหม่ได้ครับ โดยถ้าเราเลือกระยะเวลาในการผ่อนนานเท่าไหร่ ยอดผ่อนต่อเดือนของเราก็จะถูกลง ซึ่งหลายคนอาจจะเกิดคำถามที่ว่าถ้าเลือกระยะเวลาในการผ่อนนานดอกเบี้ยจะไม่ยิ่งแพงหรอ

จริง ๆ ต้องบอกแบบนี้ครับว่าหนี้บัตรเครดิตเนี่ยจะเป็นดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ก็คือถ้าเงินต้นของเราลดลงดอกเบี้ยของเราก็จะยิ่งถูกลงครับ

ดังนั้นเราต้องพิจารณาสถายการณ์ปัจจุบันของเราตอนนี้ครับว่าเราต้องการดอกเบี้ยถูกหรือผ่อนถูก เพราะถ้าเรามีสภาพคล่องทางการเงินเราก็จะมีโอกาสในการหาเงินเพิ่มเพื่อนำมาโปะหนี้ให้หมดก่อนครบระยะสัญญาได้ครับ

3. รักษาประวัติของเครดิตบูโร

การขอสินเชื่อตัวนี้ได้สำเร็จจะเป็นเหมือนการรักษาประวัติเครดิตบูโร ก่อนยอดหนี้ที่มีจะกลายเป็นหนี้เสีย และทำให้เรามีประวัติทางการเงินที่ไม่ดี ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดปัญหาหรืออุปสรรคในการขอสินเชื่ออื่น ๆ ในอนาคต

ใครบ้างที่ควรทำสินเชื่อรวมหนี้

อย่างไรก็ตาม สินเชื่อรวมหนี้มีความเหมาะสมกับบุคคลบางบุคคลเท่านั้น โดยคนที่มีคุณสมบัติเหล่านี้จะเป็นคนที่เหมาะสมต่อการรวมหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้สินเชื่ออื่น ๆ ได้แก่

1.  คนที่มีหนี้หลาย ๆ ก้อน ยอดค้างชำระสูง และไม่สามารถที่จะชำระเงินได้ตรงตามเวลา และต้องการยืดระยะเวลาในการผ่อนชำระหนี้ออกไป
2. คนที่ต้องการรักษาประวัติของเครดิตบูโร หรือไม่ต้องการก่อหนี้เสีย
3. คนที่มีรายได้ที่มากกว่า 30,000 บาทต่อเดือน เพราะหากคุณมีเงินเดือนน้อยกว่า 30,000 บาท จะสามารถขอรวมหนี้จากสินเชื่อที่มีในปัจจุบันได้ไม่เกิน 2 ธนาคาร และอาจทำให้กระบวนการในการขอสินเชื่อยากลำบากมากขึ้น

การเตรียมตัวก่อนขอสินเชื่อรวมหนี้

สำหรับใครที่รู้สึกว่ากำลังต้องการสินเชื่อรวมหนี้ เพื่อเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ที่มีอยู่ การเตรียมตัวในการขอสินเชื่อรวมหนี้ ก็ค่อนข้างที่จะ คล้ายคลึงกับการขอสินเชื่อประเภทอื่น ๆ โดยจะต้องเริ่มต้นจากการค้นหาข้อมูลของธนาคารแต่ละแห่ง ว่ากำหนดอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาการจ่ายเป็นไปตามที่คุณต้องการหรือไม่ รวมไปถึงมีค่าใช้จ่ายในส่วนใดที่จำเป็นจะต้องเพิ่มเติมหรือเปล่า

นอกจากนี้ ก็จะต้องมีการเตรียมเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ ซึ่งก็จะมีทั้งในส่วนของเอกสารส่วนตัว ที่ใช้ในการยืนยันตัวตน ได้แก่ บัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน รวมไปถึงเอกสารแสดงรายได้ในรูปแบบของสลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือน และรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน หากคุณเตรียมความพร้อมต่าง ๆ เหล่านี้เรียบร้อย ก็พร้อมแล้วที่จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้เลย

ขั้นตอนการทำสินเชื่อรวมหนี้

ขั้นตอนการขอสินเชื่อรวมหนี้ สามารถอธิบายขั้นตอนโดยสรุป ได้ดังต่อไปนี้

1. เช็กยอดหนี้ทั้งหมดที่มี เพื่อวางแผนการขอสินเชื่อให้เหมาะสมกับยอดหนี้ โดยแนะนำให้กำหนดวงเงินสินเชื่อให้มากกว่าหนี้สินที่มี เนื่องจากสถาบันการเงินบางแห่งอาจพิจารณาสินเชื่อให้ไม่เต็มจำนวน 

2. ยื่นเอกสาร หลังจากที่ตัดสินใจได้แล้วว่าต้องการที่จะขอสินเชื่อจากธนาคารไหนบ้าง จะต้องมีการยื่นเอกสารทั้งหมดตามข้อมูลข้างต้น เพื่อให้ธนาคารพิจารณา และธนาคารจะติดต่อกลับเพื่อแจ้งผลการอนุมัติภายใน 1 สัปดาห์

3. รับข้อเสนอ หลังจากที่ธนาคารติดต่อเพื่อแจ้งผลการอนุมัติการขอสินเชื่อแล้ว คุณจะต้องยืนยันเพื่อรับข้อเสนอจากธนาคาร

4. รับเงิน ธนาคารจะโอนเงินเข้าบัญชี เพื่อให้คุณนำไปปิดสินเชื่อเก่าที่เคยมี และเริ่มต้นผ่อนชำระในสินเชื่อใหม่ที่ได้รับการอนุมัติ

เลือกสินเชื่อรวมหนี้ธนาคารไหนดี

ถ้าใครยังไม่รู้ว่ามีธนาคารไหนบ้างที่มีสินเชื่อรวมหนี้ 2566 ที่น่าสนใจ เราจะขออธิบายภาพรวมของแต่ละธนาคารที่มีการออกสินเชื่อในกลุ่มนี้ เพื่อให้ได้ใช้เป็นแนวทางเบื้องต้น ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกสินเชื่อใดสินเชื่อหนึ่ง

1. ธนาคารซีไอเอ็มบี (CIMB)

CIMB มีสินเชื่อรวมหนี้ที่ให้ดอกเบี้ยต่ำสุดอยู่ที่ 9.99% โดยสามารถที่จะขอเงินอนุมัติได้สูงสุด 5 เท่าของรายได้ที่มี และผ่อนได้ยาวนาน 6 ปี โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือคนค้ำประกัน ดังนั้น สินเชื่อ CIMB ในรูปแบบของสินเชื่อส่วนบุคคลนี้ น่าจะช่วยทำให้คนที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับหนี้บัตรเครดิตหลาย ๆ ใบ สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้

2. ธนาคารกรุงไทย

สินเชื่อจากธนาคารกรุงไทยเป็นทางเลือกที่ดีที่จะทำให้คุณมีโอกาสรับเงินอนุมัติสูงสุดถึง 5 เท่าของรายได้ โดยไม่เกิน 1 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องเป็นคนที่มีรายได้ขั้นต่ำตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป และทำงานในบริษัทใด ๆ โดยมีอายุงานไม่น้อยกว่า 1 ปี และจะต้องมีบัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงไทย จึงจะเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่สามารถสมัครสินเชื่ออเนกประสงค์ 5 Plus ของกรุงไทยได้

3. ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH)

สินเชื่อจาก LH จะมาในส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคล Happy Cash ที่จะช่วยให้สินเชื่อรวมลดปลดหนี้ที่อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 5.55% และผ่อนได้ยาวนานสูงสุดถึง 60 เดือน โดยไม่ต้องใช้บุคคลหรือหลักทรัพย์ค้ำประกันเช่นกัน เพียงมีรายได้เริ่มต้น 15,000 บาท ก็สามารถจะสมัครใช้บริการสินเชื่อของ LH Bank ได้แล้ว



4. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)

ส่วนธอส. ก็ขอเข้ามามีส่วนที่จะช่วยให้คุณปลดหนี้ในสินเชื่อที่คุณมีได้เช่นเดียวกันโดยคุณสามารถขอสินเชื่อ จากธอส. ได้หลากหลายรูปแบบ แต่โดยส่วนใหญ่จะเป็นสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับคนมีบ้าน เช่น สินเชื่อพร้อมใช้  เป็นต้น

5. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

สินเชื่อ Krungsri iFIN สามารถจะขอยอดวงเงินกู้ได้สูงสุดถึง 2 ล้านบาท และสามารถเลือกผ่อนได้ตั้งแต่ 12 ถึง 60 เดือน ที่สำคัญยังสมัครง่ายและรู้ผลไวภายใน 1 วัน ใครต้องการอยากจะขอสินเชื่อจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน KMA เพื่อสมัครได้เลย

6.ธนาคารยูโอบี (UOB)

หากใครอยากจะมองหาสินเชื่อรวมหนี้จากธนาคาร UOB ที่ดอกเบี้ยต่ำเพียง 5.99% สามารถที่จะขอสินเชื่อส่วนบุคคล UOB iCASH ซึ่งให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 2 ล้านบาท และน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีเงินเดือนเริ่มต้นเพียง 15,000 บาท

7.ธนาคารออมสิน

ธนาคารออมสิน ก็เป็นอีกทางเลือกที่คุณสามารถขอความช่วยเหลือเพื่อรวมหนี้บัตรเครดิตได้ ซึ่งจะเป็นการขอสินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ ที่จะให้วงเงินกู้สูงสุด 500,000 บาท และผ่อนได้นานสูงสุดถึง 10 ปี การกู้ครั้งนี้จะช่วยยืดระยะเวลาในการผ่อนชำระ และทำให้คุณสามารถนำเอาเงินส่วนนี้ไปใช้ในสิ่งที่จำเป็นก่อนได้

8. ธนาคารกสิกรไทย

ปิดท้ายที่สินเชื่อจากธนาคารกสิกรไทย ซึ่งจะช่วยให้คนรวมหนี้ได้ในสินเชื่อเงินด่วน Express Loan โดยให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 5 เท่า และผ่อนได้นาน 60 เดือน เพียงคุณมีรายได้เริ่มต้นแค่ 7,500 บาทต่อเดือน ก็มีโอกาสที่จะขอสินเชื่อตัวนี้ได้ผ่านแล้ว

สรุปสินเชื่อรวมหนี้

หลังจากอ่านบทความนี้จบ ผมเชื่อว่าเราคงจะเห็นภาพรวมของสินเชื่อรวมลดปลดหนี้ที่มีในประเทศไทยทั้งหมดแล้ว รวมไปถึงมองเห็นว่า สถานะทางการเงินของตัวเองในปัจจุบันอยู่ในขั้นที่จำเป็นจะต้องขอสินเชื่อตัวนี้หรือไม่ และถ้ามีความจำเป็น...ควรที่จะเลือกใช้บริการจากธนาคารไหนดี?

แต่ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้กับตัวเลือกที่มีหลากหลาย สามารถใช้บริการจาก Refinn เพื่อเปรียบเทียบสินเชื่อรวมหนี้จากหลาย ๆ ธนาคาร เพื่อเลือกในสิ่งที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด ภายใต้เงื่อนไขที่สามารถกำหนดได้เอง เพราะรีฟินน์จะช่วยบริหารจัดการเงินของเพื่อน ๆ ให้ง่ายขึ้น และช่วยลดภาวะการผ่อนต่อเดือนให้น้อยลง ลองเข้ามาศึกษาบริการของเราที่นี่ ทีมงานคุณภาพพร้อมดูแลปัญหาสภาพคล่องของคุณให้ดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว