กู้บ้านไม่ผ่าน อาจมาจากสาเหตุเหล่านี้ พร้อมทางแก้ปัญหา
why you have not been approved from bank

กู้บ้านไม่ผ่าน อาจมาจากสาเหตุเหล่านี้ พร้อมทางแก้ปัญหา

อย่างที่รู้ๆ กันดีนะว่าการขอสินเชื่อบ้านนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจำนวนตัวเลขที่เราขอไปมันอยู่ในหลักล้าน ซึ่งนับเป็นจำนวนมหาศาล ดังนั้นการตรวจสอบ การอนุมัติ และการยืนยันหลักฐานจึงต้องรัดกุมกันนิดหนึ่ง เพื่อที่สถาบันการเงินจะได้มั่นใจว่า คนที่มาขอกู้บ้านจะสามารถคืนเงินเค้าทุกบาททุกสตางค์ได้จริงๆ ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวม 4 ข้อกวนใจที่ทำให้คนส่วนใหญ่ขอสินเชื่อบ้านไม่ผ่านมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน จะได้ระวังไว้ก่อนไปขอกู้บ้านของตัวเอง

เกณฑ์พิจารณาผู้กู้บ้าน มีอะไรบ้าง

กู้ซื้อบ้านมีเกณฑ์พิจารณาอะไรบ้าง

สำหรับเกณฑ์พิจารณาผู้กู้บ้านผมจะสรุปและอธิบายแบบง่ายๆให้เข้าใจกันนะครับ โดยเกณฑ์พิจารณาผู้กู้บ้านผมจะแยกออกเป็น 3 ข้อหลักๆให้ลองเช็คและตรวจสอบดูครับ

ข้อที่ 1 ติดเครดิตบูโรมั๊ย

ข้อนี้ค่อนข้างที่จะสำคัญเลยครับ เพราะถ้าเราติดเครดิตบูโร หรือ มีประวัติทางการเงินที่ไม่ดี การที่ธนาคารจะอนุมัติการกู้บ้านของเราจะเป็นไปได้ยากครับ ลองคิดดูเล่นๆนะครับถ้าเพื่อนเราที่ใครต่างก็บอกว่ายืมไปแล้วไม่ค่อยใช้หนี้ หรือ ใช้คืนช้า เราจะอยากให้ยืมมั๊ย ธนาคารก็เเบบนั้นเหมือนกัน

ข้อที่ 2 มีเงินออมมากน้อยแค่ไหนกัน

ข้อนี้สำคัญมากครับ เพราะการกู้บ้านจะทำให้เราเป็นหนี้ ถ้ามองในมุมของเรา เราก็ต้องมีเงินสำรองไว้กินไว้ใช้ และเพื่อฉุกเฉินยามจำเป็นครับ ซึ่งในมุมของธนาคารเขาก็จะมองว่าหากเราเกิดติดขัดทางการเงิน เราจะมีเงินมาจ่ายหนี้ให้ธนาคารมั๊ย ซึ่งธนาคารจะพิจารณาว่าควรมีอย่างน้อย 5-15% ของราคาบ้าน

ข้อที่ 3 รายได้เหมาะกับราคาบ้านที่จะกู้มั๊ย

ข้อสุดท้ายที่อยากให้เช็ค คือรายได้ของเราครับ เพราะทางธนาคารจะคำนวณความสามารถในการผ่อนของเราเป็น 40% ของรายได้ครับ เช่นถ้าเรารายได้ 30,000 บาทก็เท่ากับเรามีความสามารถในการผ่อนต่อเดือน 12,000 บาท ซึ่งถ้าบ้านที่กู้คำนวณแล้วต้องผ่อนต่อเดือนมากกว่า 12,000 บาท แบบนี่อาจทำให้เรายื่นกู้บ้านไม่ผ่านได้ครับ

ขั้นตอนกู้บ้าน

4 ขั้นตอนการกู้บ้าน

สำหรับขั้นตอนการกู้ซื้อบ้านผมจะมาแนะนำง่ายๆเพียงแค่ 4 Step ที่ต้องทำครับเพื่อให้ทำตามได้แบบถูกต้องทุกขั้นตอน และไม่ทำให้เกิดเหตุการณืกู้บ้านไม่ผ่านด้วยครับ

ขั้นแรก ศึกษาข้อมูล เตรียมเอกสารและเปรียบเทียบธนาคารที่จะกู้บ้านให้ดี เพื่อให้ง่ายและสอดคล้องกับสิ่งที่เรามีครับ รวมไปถึงโปรโมชันและดอกเบี้ยต่างๆด้วย

ขั้นต่อมา เมื่อได้ธนาคารแล้วให้เรานำเอกสารที่เตรียมไว้ไปยื่นให้กับธนาคารครับ ซึ่งหากธนาคารต้องการเอกสารเพิ่มเติม ทางธนาคารจะบอกเราอีกทีครับ 

ขั้นที่สาม หลังจากยื่นเอกสารเรียบร้อยแล้วทางธนาคารจะทำการประเมินความสามารถและรอทางธนาคารอนุมัติวงเงินให้กับเราในการซื้อบ้าน 

ขั้นที่สี่ มาถึงขั้นสุดท้ายแล้วนะครับ หลังจากที่ทางธนาคารอนุมัติผ่านแล้ว ให้เราทำสัญญากู้เงินและสัญญาจดจำนองกับธนาคารได้เลย ซึ่งจะต้องมีการเสียค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินที่กู้มาครับ แต่โดยส่วนมากทางธนาคารจะมีการหักอัตโนมัติจากวงเงินที่อนุมัติให้เราเรียบร้อยแล้วครับ

สาเหตุที่กู้บ้านไม่ผ่าน

ทำไมกู้บ้านไม่ผ่านนะ

สำหรับใครที่ยื่นกู้บ้านแล้วแต่กู้บ้านไม่ผ่านสักที ผมขอแนะนำให้ลองเช็คลิสต์สาเหตุต่างๆเหล่านี้ดูครับว่ามีข้อไหนมั๊ยที่ตรงกับเรา เพราะมันจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เรายื่นกู้บ้านไม่ผ่านครับ

1. เปลี่ยนงานใหม่

การเปลี่ยนงานหรือย้ายงาน ก็ทำให้ขอสินเชื่อบ้านไม่ผ่านเหมือนกันนะ เพราะสถาบันการเงินเค้าไม่มีทางรู้หรอกว่าเราจะผ่านโปรในที่ทำงานใหม่หรือเปล่า ถ้าเค้าอนุมัติให้เราไป แล้วเราดันไม่ผ่านโปร ตกงานขึ้นมา จะเอาเงินที่ไหนมาผ่อนค่าบ้าน จริงมั้ย ดังนั้นถ้าจะให้ดีก็อย่าเพิ่งรีบเปลี่ยนงานตอนมีแพลนจะกู้บ้านแล้วกันนะครับ เพราะธนาคารส่วนใหญ่จะต้องรอให้เราพ้นช่วงโปร หรือทำงานมาเกิน 1-2 ปีก่อน ถึงจะปล่อยกู้ให้เราได้

2. มีหนี้สินเยอะ

ถ้าเพื่อนๆ เองอยากจะกู้บ้าน แต่กำลังผ่อนรถ ผ่อนตู้เย็น ผ่อนโทรศัพท์ หรือมีรายการหนี้สินอยู่เยอะล่ะก็ การกู้สินเชื่อบ้านครั้งนี้อาจจบไม่สวยอย่างที่หวัง เพราะสถาบันการเงินจะมองว่าเรามีหนี้เกินตัว และไม่มีความสามารถที่จะชำระหนี้ได้ในอนาคต ซึ่งวิธีที่เค้าใช้กันก็คือ (หนี้สิน/รายได้ทั้งหมด) x 100 = สัดส่วนหนี้สินต่อรายได้ ถ้าผลลัพธ์มากกว่า 50% (แล้วแต่ธนาคาร) โอกาสที่จะกู้บ้านผ่านก็ริบหรี่เต็มที เพราะฉะนั้นต้องไปผ่อนทุกอย่างให้หมดก่อน หรือปิดหนี้ที่ไม่จำเป็น เช่น ใช้บัตรเครดิตผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า แล้วค่อยกลับมาขอสินเชื่อบ้านใหม่อีกที ก็จะมีโอกาสกู้ผ่านมากขึ้นครับ (แต่ทั้งนี้ เงื่อนไขเหล่านี้ก็จะแตกต่างกันไปแล้วแต่ธนาคารด้วยนะครับ)

3. ติดเครดิตบูโร

ปัญหาระดับชาติข้อต่อไปที่ทำให้กู้สินเชื่อบ้านไม่ผ่านก็คือ ติดเครดิตบูโรนั่นเอง เพราะมันแสดงให้เห็นว่า ตัวคนกู้นั้นไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งข้อนี้สถาบันการเงินเค้าเข้มงวดที่สุดแล้วนะ ดังนั้นพยายามอย่าไปค้างชำระหนี้อะไรที่มันเกินระยะเวลาของเค้า หรือถ้ามีรายชื่ออยู่ในเครดิตบูโรไปแล้ว ก็ให้รอไปอีก 3 ปี แล้วเราก็ต้องขยันสร้างหลักฐานว่าเรามีวินัยที่ดีแล้ว เช่น ชำระบัตรเครดิตตรงทุกครั้ง มีเงินหมุนแสดงในรายการเดินบัญชีสม่ำเสมอ

4. ไม่มีเครดิต ไม่น่าเชื่อถือ

หลายคนเห็นว่าการไม่ติดเครดิตบูโร จะทำให้มีโอกาสในการกู้บ้านได้ง่ายขึ้น เลยไม่เคยทำธุรกิจทางการเงินที่ต้องผ่อนชำระอะไรเลย ทำให้ไม่มีเครดิต และไม่สามารถเชื่อถือได้ว่าจะมีวินัยทางการเงินที่ดีมั้ย สถาบันการเงินก็จะเกิดความสงสัย และตัดสินใจอนุมัติยากกว่าเดิม เพราะฉะนั้นการสร้างเครดิตให้กับตัวเองไว้บ้าง หากซื้อของชิ้นใหญ่ ให้ใช้บริการผ่อน 10 เดือน แบบดอกเบี้ย 0% ดู

ก็จะทำให้สถาบันการเงินเชื่อถือในวินัยของเรามากขึ้น ส่งผลให้สามารถกู้บ้านได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมนั่นเองครับ โดยเราอาจจะเริ่มจากการมีบัตรเครดิตสักใบ ใช้จ่ายแต่ละเดือนเล็กๆน้อยๆ แต่จ่ายตรงเวลาทุกครั้งอย่างต่อเนื่อง เราก็จะดูน่าเชื่อถือขึ้นมาอีกหลายเท่าเลยล่ะครับ

5. ผู้กู้ร่วมประวัติไม่ดี

ในกรณีที่เรากู้ร่วมซื้อบ้าน อีกหนึ่งสาเหตุเลยที่ทำให้เรากู้บ้านไม่ผ่านนั่นก็คือ ผู้กู้ร่วมของเราประวัติไม่ดีครับ เนื่องจากทางธนาคารไม่สามารถเชื่อถือได้ว่า หากเรามีปัญหาทางการเงิน หรือ เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น ผู้กู้ร่วมของเราจะสามารถรับผิดชอบหนี้ได้ 

ดังนั้นก่อจะกู้ร่วมซื้อบ้านกับใครอย่าลืมเช็คประวัติทางการเงินของเขาให้ดีนะครับ จะได้ยื่นผ่านแบบไม่ต้องเสียเวลายื่นใหม่

6. มีหนี้บัตรเครดิต

การมีหนี้บัตรเครดิตก็เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เรากู้บ้านไม่ผ่านครับ เนื่องจากจะทำให้ทางธนาคารประเมินความสามารถในการจ่ายหนี้ของเราลดลงครับ อธิบายแบบให้เข้าใจง่ายๆนะครับ จากที่ผมบอกไปว่าทางธนาคารจะประเมินความสามารถในการผ่อนของเราโดยคิด 40% ของฐานเงินเดิม ดังนั้นถ้าเราเงินเดือน 30,000 บาท ความสามารถในการผ่อนของเราจะอยู่ที่ 12,000 บาท แต่ถ้าเรามีหนี้บัตรเครดิตอยู่ 3,000 บาท ดังนั้นความสามารถที่แท้จริงในการผ่อนของเราจะอยู่ที่ 12,000 - 3,000 = 9,000 บาทครับ

7. รายได้ไม่เพียงพอหรือไม่แน่นอน

ข้อนี้ก็อย่างที่บอกไปแหละครับว่าเราต้องเลือกกู้บ้านที่ราคาสอดคล้องกับเงินเดือน และความสามารถในการผ่อนของเรา และยิ่งไปกว่านั้น รายได้ของเราเป็นรายได้ที่ไม่แน่นอน บางเดือนอาจจะ 20,000 บางเดือน 30,000 แบบนี้จะทำให้ทางธนาคารไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนครับว่ารายได้ที่แท้จริงของเราที่ทางธนาคารจะอนุมัติให้ อยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การกู้บ้านของเราไม่ผ่านครับ

8. เอกสารไม่ครบ

ข้อสุดท้ายที่ทำให้การกู้บ้านไม่ผ่านนั่นก็คือ เอกสารไม่ครบครับ แน่นอนครับว่าเอกสารเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด เพราะต้องใช้ในการดำเนินเรื่องการกู้บ้านครับ ถ้าไม่ครบหรือจะขาดไปสักอย่างนี่ไม่ได้เลย  โดยเอกสารที่ต้องใช้นั้นมีอะไรบ้างนั้น ก็ตามที่ผมได้บอกไปเลยครับ แต่บางธนาคารก็อาจจะมีเอกสารเพิ่มเติมที่ต้องใช้ ต่างกันออกไปซึ่งต้องเช็คให้ดีๆนะครับ จะได้ไม่พลาดขาดอะไรไป เพราะมันจะเสียเวลาหากยื่นไม่ผ่าน 

ขอสินเชื่อบ้านง่ายๆที่รีฟินน์

และสำหรับใครที่ต้องการความสะดวกในการขอสินเชื่อบ้าน สามารถเข้ามาสมัครสินเชื่อบ้านฟรีได้ที่ Refinn โดยทางเราได้มีการรวบรวมโปรชันสินเชื้อบ้าน/กู้ซื้อบ้าน จากธนาคารชั้นนำไว้ให้แล้ว เพียงแค่กรอกข้อมูลให้ครบครบถ้วน จากนั้นเลือกธนาคารที่ต้องการ จากนั้นกดสมัครก็เป็นอันเสร็จสิ้นแล้วครับ สะดวกรวดเร็วไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปทำเรื่องเองที่ธนาคาร ที่สำคัญทางเรายังมีทีมงาน Support ที่คอยให้คำแนะนำ และติดตามการดำเนินเรื่องให้ตั้งแค่ต้นจนจบกระบวนการเลยครับ

สรุปเรื่องกู้บ้านไม่ผ่าน

และนี่ก็เป็น 8 ปัจจัยหลักๆ ที่คนส่วนใหญ่มักจะตกม้าตายกัน ถ้าเราก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านี้ไปได้ล่ะก็ เรื่องของการกู้สินเชื่อบ้านก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แล้วก็อย่าลืมนะครับว่า ถ้ากู้บ้านผ่านแล้ว ดอกเบี้ยบ้าน/คอนโดจะถูกแค่ 3 ปีแรก หลังจากนั้นจะแพงหูฉี่เลยล่ะ ดังนั้นเราต้องรู้จักที่จะรีไฟแนนซ์ คือการย้ายไปผ่อนกับธนาคารที่ดอกเบี้ยถูกกว่า ซึ่งจะทำให้ประประหยัดเงินได้เป็นแสนๆบาท ซึ่งเป็นวิธีที่นักวางแผนการเงินแนะนำ และถ้าเราอยากรู้ว่ารีไฟแนนซ์กับธนาคารไหนดี ก็สามารถเข้าไปเช็คได้ที่ รีไฟแนนซ์บ้าน ซึ่งรวบรวมโปรโมชั่นจาก 15 ธนาคารชั้นนำมาเปรียบเทียบให้ดูจะๆ ฟรี ไม่มีค่าบริการครับ

เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2566
พงศธร ธนบดีภัทร
CEO & Co-Founder ที่ช่วยคนไทยรีไฟแนนซ์ไปแล้วกว่าพันล้านบาท