จ่ายบัตรเครดิตไม่ไหว ช่วงวิกฤติแบบนี้ ทำอะไรได้บ้าง
ปกติแล้ว ยอดหนี้บัตรเครดิต จะสามารถจ่ายขั้นต่ำได้ ที่ประมาณ 10% ของยอดหนี้ ทำให้หลายคนสามารถบริหารจัดการภาระหนี้บัตรเครดิตในส่วนนี้ได้
แต่สำหรับในช่วงนี้ เพื่อน ๆ หลายคนเริ่มได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ โควิด-19 โดยเฉพาะเรื่องของรายรับที่เข้าอาจน้อยลง และรายจ่ายต่าง ๆ ที่เรียงคิวต่อแถวกันเดินเข้ามาหาเรา ซึ่งรายจ่ายบางอย่าง เราอาจจะลดลงหรือชะลอไว้ก่อนได้ แต่ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตที่ส่งมา ก็เป็นอะไรที่เราเลี่ยงไม่ได้ และถ้าไม่จ่ายก็อาจจะทำให้เสียประวัติการผ่อน และติดเครดิตบูโร
วันนี้ผมอยากมาแชร์ 2 วิธี ในการลดรายจ่ายหนี้บัตรเครดิต
1. รวมยอดหนี้บัตรเครดิต
แม้ว่าบัตรเครดิตจะสามารถจ่ายขั้นตำ่ที่ 10% ได้แต่ถ้าเรามีหลายใบ สมมุติเรามี 3 ใบ ใบละ 50,000 บาท ถ้าจ่ายขั้นต่ำใบละ 10% ก็ถือว่าเป็นยอดที่หนักเอาการอยู่นะครับ ดังนั้นถ้าวันนี้เรามีงานประจำทำอยู่ แม้จะถูกลดเงินเดือนลงไปบ้างก็ไม่เป็นไรครับลองดูได้ ผมจะแนะนำให้ใช้วิธีการรวมยอดหนี้บัตรเครดิต แล้วไปผ่อนกับสถานบันการเงินอื่นแทนครับ ซึ่งเราจะเรียกว่า การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ซึ่งจะคล้ายกับการรีไฟแนนซ์บ้านเลยครับ คือเราจะเอายอดหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดมารวมไว้เป็นก้อนเดียว แล้วทำการผ่อนชำระ อาจจะเป็น 18 , 24 , 36 เดือน เลือกที่เหมาะสมกับเราครับ
รวมยอดหนี้บัตรเครดิตแล้วดียังไง?
ยอดผ่อนหนี้บัตรเครดิตต่อเดือนลดลง จากที่เราเคยจ่ายกระจายแต่ละใบเป็นขั้นต่ำรวมกัน 15,000 บาท พอเราทำการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตแล้วอาจจะทำให้ต่อเดือนเราเหลือประมาณ 4,000-5,000 บาทครับ นั้นหมายความว่าแม้เราจะทำงานเท่าเดิมแต่สภาพคล่องเรามีมากขึ้นจากยอดหนี้ที่ลดลงถึง 10,000 บาทต่อเดือนครับ
เรามีกำหนดว่ายอดหนี้บัตรเครดิตก้อนหนี้หมดเมื่อไร เพราะพอเรารีไฟแนนซ์บัตรเครดิตแล้วเราจะมีกำหนดตายตัวที่แน่ชัดครับว่าต้องผ่อนกี่เดือน ซึ่งเงินที่ผ่อนทุกเดือนก็จะเป็นการผ่อนทั้งต้นและดอก ต่างจากการจ่ายขั้นต่ำหนี้บัตรเครดิตที่ไม่รู้ว่าจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆ ไม่รู้จะหมดเมื่อไร
ทั้งนี้เราสามารถเช็คโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตได้ที่ www.refinn.com/refinancecreditcard
2. มาตรการพักชำระหนี้
สำหรับใครที่ตอนนี้ได้รับผลกระทบจนต้องถูกการพักงาน หรือออกจากงาน และชัดเจนว่าไม่มีรายได้เข้ามาแน่นอน การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตแบบข้อ 1 คงทำไม่ได้ มาตรการพักชำระหนี้ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีครับ ตอนนี้ทุกธนาคารก็ขานรับรัฐบาลและออกนโยบายการพักชำระหนี้มาช่วยเหลือกันแล้วครับซึ่งเกณฑ์แต่ละธนาคารก็ต่างกันไป เช่น พักชำระทั้งเงินต้นและเงินดอกเบี้ย, ชำระเพียงดอกเบี้ย ไม่ต้องชำระเงินต้น ลดดอกเบี้ย ฯลฯ อันนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร
แม้มาตรการพักชำระหนี้ถ้ามองในระยะยาวอาจทำให้เราเสียดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นในภาพรวม แต่ข้อดีเลยคือการช่วยเสริมสภาพคล่องให้เราได้ในช่วงระยะเวลาที่เราขาดรายได้ครับอย่างตอนนี้ครับ ลดภาระรายจ่าย ลดเรื่องการเสียเครดิต และทำให้เราเอาเวลาไปตั้งสติและหาแนวทางการหารายได้ในช่วงที่ประสบปัญหาครับ
เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับ 2 แนวทางที่ผมแชร์ให้ฟังน่าจะช่วยให้เพื่อน ๆ เข้าใจถึงความต่างของแต่ละวิธีและใช้เป็นตัวช่วยในการเลือกว่าแบบไหนที่เหมาะกับเรานะครับหากเราต้องการจัดการหนี้บัตรเครดิต
ซึ่งในความเป็นจริงถึงไม่ใช่ช่วงวิกฤติแบบนี้การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตก็ถือเป็นแนวทางที่ควรทำนะครับหากเรากำลังมีปัญหาการจัดการค่าใช้จ่าย และอย่าลืมนะครับว่าหากต้องการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตสามารถเข้าไปใช้บริการกับทาง Refinn ให้เขาช่วยหาโปรที่เหมาะกับเราได้โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย และสามารถสมัครผ่านออนไลน์ได้เลยโดยไม่มีค่าใช้จ่ายครับที่ www.refinn.com/refinancecreditcard
ติดตามความรู้เรื่องการเงินการจาก FinFin by Refinn ได้ที่
? Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCetOGuADiAitD15s2MBPjeA
? Facebook : https://www.facebook.com/finfinchannel
? Instagram : https://www.instagram.com/finfinchannel/
? Twitter : https://twitter.com/finfinchannel/