การ Refinance บัตรเครดิตเป็นการรวมภาระบัตรเครดิตทุกใบ ย้ายมาเป็นยอดก้อนเดียวกับธนาคารเดียว เพื่อผ่อนเป็นรายเดือนในยอดผ่อนที่ถูกกว่าเดิม

สำหรับผู้ที่มีประวัติเสียทางการเงินกับธนาคาร เช่น ชำระล่าช้าเกิน 90 - 120 วัน หรือ ค้างชำระ ไม่สามารถทำการผ่อนชำระได้ หรือได้มีการปรับโครงสร้างกับธนาคาร ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าว จะส่งผลต่อการพิจารณาการรวมภาระบัตรเครดิต รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ของทางธนาคารผู้รับพิจารณาสินเชื่อ

ขอแนะนำสำหรับผู้ที่อยากขอสินเชื่อนั้น ควรรักษาประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อให้เป็นประวัติปกติ มีวินัยในการชำระอย่างตรงเวลา หากมีค้างชำระ ควรทำการชำระหนี้ค้างให้เรียบร้อย เมื่อรักษาประวัติเป็นปกติ ต่อเนื่องมา 1 - 3 ปี จะสามารถกลับขอสินเชื่อได้อีกครั้ง

ทางธนาคารบางแห่งเปิดรับสินเชื่อสำหรับผู้ที่ทำอาชีพอิสระ หรือฟรีแลนซ์ แต่อาจจะมีการตรวจสอบและขั้นตอนที่ยิบย่อยกว่า โดยจะตรวจสอบบัญชีธนาคารย้อนหลังว่ารายได้ที่เข้ามาเป็นประจำหรือไม่

การเพิ่มโอกาสในการทำธุรกรรมทางการเงินเบื้องต้นนั้น ได้แก่ การจ่ายค่าผ่อนชำระ ค่างวดต่างๆ ให้ตรงเวลา ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายขั้นต่ำ หรือจ่ายเต็มก็ตาม เพื่อเป็นการสร้างประวัติการชำระที่ดีแก่ตนเอง รวมถึงพยายามให้เงินในบัญชีเดินตลอด เพราะทางธนาคารจะดูบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุด และอายุงาน ควรอายุงานเกินพ้นช่วงทดลองงาน หรือไม่ควรเปลี่ยนงานบ่อย เพราะมีผลต่อการทำธุรกรรมทางการเงินเช่นกัน

ธนาคาร หรือสถาบันการเงินจะต้องพิจารณาก่อนว่าภาระบัตรเครดิตทั้งหมดในปัจจุบันรวมแล้วเป็นมูลค่าเท่าไร โดยปกติ ธนาคารจะอนุมัติวงเงินสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตสูงสุดไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ หากภาระบัตรเครดิตทั้งหมดที่มีอยู่ มีน้อยกว่า 5 เท่าของรายได้ และไม่ได้มีภาระในระบบอื่นๆ เพิ่มเติม ก็มีโอกาสที่จะได้รับพิจารณาวงเงินรวมภาระทั้งหมด